จับตา ม็อบ 7 สิงหา วันเสียงปืนแตก
ม็อบนัด 7 สิงหาคม ตรงกับวันประวัติศาสตร์ วันเสียงปืนแตก
7 สิงหาคม ดีเดย์ม็อบครั้งใหม่ น่าจับตา นำโดยหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน , นักเรียนไท , กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG , ขบวนการริมสระ , เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย , ทะลุฟ้า , เยาวชนปลดแอก , ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ,สหภาพคนทำงาน , กลุ่ม SUPPORTER THAILAND นัดหมายในเวลา 13.00 น.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปัตย์ ก่อนเคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง
พล.อ.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับตัวแทน ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสันติบาล เพื่อกำหนดแนวทางการควบคุมการชุมนุม โดยขอให้การชุมนุมวันที่ 7 ส.ค.นี้ คำนึงถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ที่มีความบอบช้ำจากสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น การเคลื่อนไหวใดๆก็ตาม ที่จะก่อให้เกิความเสียหายกับประเทศชาติและส่วนรวม ตำรวจยืนยันว่าจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดการกระทำความผิดขึ้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ว่า กสม.พิจารณาแล้วเห็นว่า เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม รวมทั้งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในระยะหลัง มีข้อน่าห่วงกังวลทั้งในด้านความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน และความเสี่ยงในด้านสุขภาพอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
กสม.จึงมีมติมอบหมาย นางปรีดา คงแป้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ และนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในวันดังกล่าว เพื่อติดตามเฝ้าระวังว่า เสรีภาพในการชุมนุมและการแสดงออกของประชาชนได้รับการคุ้มครองหรือไม่ ผู้ชุมนุมได้ดำเนินการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธหรือไม่ และปฏิบัติการของรัฐในการควบคุมฝูงชนเป็นไปตามหลักสากล หลักความจำเป็นและได้สัดส่วนกับสถานการณ์หรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ กสม.ขอยืนยันในบทบาทหน้าที่การสังเกตการณ์และเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นกลาง เป็นธรรม และรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย
ทางด้าน กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นหนังสือถึงกองทัพบก เรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคง ประเทศออกมาช่วยกันปกป้องสถาบัน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องการขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเคลื่อนไหวให้ถูกประเด็น และห้ามนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง
ขณะที่ นายอานนท์ แสนน่าน อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประชุมทำความเข้าใจกับอดีตแกนนำหมู่บ้านเสื้อแดง และปัจจุบันนี้เราเปลี่ยนมาเป็นหมู่บ้านเสื้อแดงรักษาพระองค์ ทางประธานแต่ละภูมิภาคก็ได้แจ้งมาว่าพร้อมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และปกป้องพระบรมมหาราชวัง ที่ทางม็อบจะบุกไปปิดพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 7 ส.ค.นี้
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า การที่ม็อบดีเดย์จะบุกพระบรมหาราชวัง ในวันที่ 7 ส.ค. นั้น หมายความว่า จะลอกเลียนแบบอดีตสหายเก่า ผกค. ที่ประกาศเอาวันที่ 7 ส.ค. เป็นวันเสียงปืนแตก หลอกล้อให้ทหารออกมาใช้อาวุธปราบปรามประชาชนเพื่อจะหาความชอบทำให้กับกลุ่มม็อบ