ศบค.จ่อปิดเพิ่ม สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ต้องยกระดับ
นายกฯ สั่ง ทีมที่ปรึกษา หาแนวทางยกระดับมาตรการ ให้เข้มข้นขึ้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ก.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค.แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง(ศปม.) รายงานพบการกระทำความผิดตลอด 5 วันของการยกระดับมาตรการ 217 ราย ฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน 158 ราย ฝ่าฝืนมาตรการห้ามรวมกลุ่ม 59 ราย ทั้งหมดถูกดำเนินคดี 45 ราย ที่เหลือเป็นการว่ากล่าวตักเตือน ขอความร่วมมือ โดย ศปม.จะเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการ
พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ได้ข้อสรุปว่าอาจจะต้องปรับมาตรการให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยอาจจำเป็นต้องปิดกิจการบางอย่าง ซึ่งการประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้อนุญาตให้เปิดกิจการบางอย่างจนถึงเวลา 2 ทุ่ม เพื่อให้ประชาชนได้มีเวลาเดินทางกลับบ้าน โดยที่ประชุมวันนี้มีการพิจารณาว่าอาจจะมีการปิดให้มากขึ้น ปิดมากที่สุด ซึ่งอาจจะปรับมาตรการให้มีความเข้มข้นมากขึ้น
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศไปในสัปดาห์ที่แล้ว เป็นไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน มีการล็อกดาวน์เฉพาะใน 10 จังหวัด ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด แต่เมื่อมีการทบทวนมาตรการใน 5 วันที่ผ่านมา พบว่าการบังคับใช้มาตรการอย่างน่าเป็นห่วง ผอ.ศบค.ขอจึงให้คณะแพทย์ที่ปรึกษา มีการทบทวนมาตรการสาธารณสุขเพื่อนำเสนออย่างเร่งด่วน ซึ่งอาจจะมีการปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้นจากนี้ไป
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ประชุม ศบค.ยังอนุมัติให้ใช้สูตรผสมวัคซีน โดยใช้เข็มที่ 1 เป็นวัคซีนชิโนแวค เข็มที่ 2 วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับสถานการณ์โควิดทั่วโลก วันที่ 16 ก.ค. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 189,730,243 ราย เพิ่มขึ้น 559,651 ราย เสียชีวิต 4,083,003 ราย เพิ่มขึ้น 8,502 ราย สหรัฐอเมริกา ยังพบผู้ติดเชื้อมากที่สุด 34,887,115 ราย เพิ่มขึ้น 36,674 ราย ตามด้วยอินเดีย 31,025,875 ราย เพิ่มขึ้น 39,072 ราย บราซิล 19,262,518 ราย เพิ่มขึ้น 52,789 ราย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 58 จำนวน 381,907 ราย
สถานการณ์ในประเทศ พบผู้ป่วยใหม่ 9,692 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 381,907 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 67 ราย เสียชีวิตสะสม 3,099 ราย รักษาตัวอยู่ 106,951 ราย อาการหนัก 3,367 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 847 ราย