ศบค.ขอโทษประชาชน ทำสับสน ปมวัคซีน
อยากกราบขอโทษ ถ้าเกิดมีอะไรที่ทำให้ท่านไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจ ทางทีมของเราจะทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ วันศุกร์ที่ 28 พ.ค. ผู้ป่วยรายใหม่ 3,759 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 144,976 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 34 ราย เสียชีวิตสะสม 954 ราย
สถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 169,623,481 ราย เพิ่มขึ้น 537,670 ราย เสียชีวิต 3,525,023 ราย เพิ่มขึ้น 11,643 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา 33,999,680 ราย 2. อินเดีย 27,547,705 ราย 3. บราซิล 16,342,162 ราย4. ฝรั่งเศส 5,635,629 ราย 5. ตุรกี 5,220,549 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. แถลงถึงแผนการกระจายวัคซึ่งที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ย้ำว่าการกระจายวัคซีนทั่วโลก ยังถือเป็นการอนุมัติแบบฉุกเฉิน โดยการรับรองขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ทั้งนี้ วัคซีนปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดอัตราการตาย ลดความรุนแรง ไม่ให้มีการติดเชื้อแล้วนำไปสู่การเสียชีวิต
“ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าฉีดแล้วจะสามารถป้องกันการแพร่เชื้อ แต่ทั่วโลกรายงานตรงกันว่ามีความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอัตราตายและลดความรุนแรง”
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ประเทศไทยได้ประกาศการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ โดยทุกคนในประเทศไทยต้องเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพปลอดภัย สามารถป้องกันโรคโควิด-19 โดยเป้าหมายในการให้วัคซีนคือลดอัตราการติดเชื้อและตาย
ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายแรก จึงมุ่งไปที่ประชากรที่มีความเสี่ยงสูง เจ็บป่วยรุนแรง รวมถึงเสียชีวิต นั่นคือกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60ปีขึ้นไป และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 โรค
อีกวัตถุประสงค์คือการปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ จึงได้กระจายวัคซีนไปที่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมโรคโควิด-19
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การบริหารจัดการวัคซีนในระยะแรก ซึ่งมีวัคซีนอยู่ปริมาณจำกัด ในช่วงเดือน ก.พ.ถึง พ.ค.เน้นการกระจายวัคซีนไปที่กลุ่มบุคลากรด่านหน้า รวมถึงผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรค พร้อมสำรองวัคซีนไปยังพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดฉุกเฉิน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้วัคซีนจะมีในปริมาณที่เพียงพอ โดยจะมีการระดมฉีดวัคซีน ให้กับประชากร 70% ในประเทศ หรือประมาณ 50 ล้านคน เตรียมจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดส โดยจะฉีดเข็มที่ 1 ให้แล้วเสร็จในเดือน ก.ย. และฉีดทั้งหมดให้ครบถ้วนภายในเดือน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ เมื่อมีวัคซีนระยะที่ 2 เข้ามา ตามแผนจะมีการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัด 70% ของจำนวนประชากร อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอจากทางจังหวัด ให้มีการกระจายวัคซีนไปในพื้นที่ที่เกิดการระบาดก่อน รวมถึงถึงพื้นที่อื่น เช่น จังหวัดท่องเที่ยว จังหวัดชายแดน เป็นต้น โดย คบค.ต้องนำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาอย่างรอบคอบ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนการลงทะเบียนรับวัคซีนด้วยแอพพลิเคชันหมอพร้อม อาจไม่ตอบโจทย์การฉีดวัคซีนตามพื้นที่สถานการณ์ ซึ่งทาง ศบค.เห็นว่าถ้าจังหวัดใดมีความประสงค์ที่จะพัฒนาระบบลงทะเบียนให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ก็สามารถทำได้ เช่น ตอนนี้ทำแล้วที่จังหวัดภูเก็ต นนทบุรี เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ไม่ได้มีการยกเลิกระบบหมอพร้อม แต่เปิดโอกาสให้มีระบบการลงทะเบียนจองวัคซีนเพิ่มขึ้น
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยระบบหมอพร้อมแล้วยืนยันว่า จะได้รับการฉีดวัคซีนตามที่ได้รับการนัดหมายอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนด้วยระบบอื่นๆ
“เห็นในกระแสข่าวว่าคนกรุงเทพฯน้ำตาคลอสับสนเรื่องนโยบายวัคซีน ถ้าวันนี้ยังไม่ชัดเจน ก็จะขอมาเน้นย้ำในวันถัดๆไป อยากกราบขอโทษ ถ้าเกิดมีอะไรที่ทำให้ท่านไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจ ทางทีมของเราจะทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น อยากเห็นประเทศไทยแข็งแรงทุกคนแข็งแรง“