“รงค์ บุญสวยขวัญ” กับภารกิจเมืองนครฯ แห่งความหวัง
นครศรีธรรมราชต้องมีความหวังบนการบริหารจัดการของชาวนครศรีธรรมราชด้วยกันเอง เมื่อเมืองมีความหวัง มีความน่าอยู่ ประชาชนก็จะมีความสุข
อีกหนึ่ง ส.ส.ฝีปากกล้าแห่งพรรคแกนนำรัฐบาล คือ “รงค์ บุญสวยขวัญ” ผู้แทนเขต 1 นครศรีธรรมราช วัย 61 ปี
สั่งสมประสบการณ์อาจารย์มหาวิทยาลัย มาช้านานกว่า 20 ปี มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นถึงรองศาสตร์ตราจารย์ ก่อนจะกระโดนมาเล่นการเมืองเมื่อพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ก่อร่างสร้างตัวในปี 2561
ก่อนหน้านั้น รองศาสตราจารย์รงค์ บุญสวยขวัญ สอนหนังสือยู่ในมหาวิทยาลัย ทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก เป็นอาจารย์สายวิจัย โดยเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยและเป็นนักวิจัยประสบการณ์สูง เน้นการพัฒนาเชิงพื้นที่การเมืองภาคประชาชน การบริหารจัดการทางสังคม และการเมืองท้องถิ่น
มีผลงานตีพิมพ์ ทั้งแบบบทความทางวิชาการ และหนังสือตำราเผยแพร่อย่างกว้างขวาง สื่อมวลชนสายการเมืองรู้จักกันเป็นอย่างดี ในฐานะนักวิชาการ ที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์ที่ทำหน้าที่ด้านสื่อ โดยเฉพาะสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ทั้งเป็นพิธีกรและวิทยากร รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย เรียกว่าเป็นคนมีชื่อเสียงอยู่พอสมควร
เขามาด้วยความตั้งใจพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อมุ่งไปสู่นครแห่งการท่องเที่ยว และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานรองรับอนาคต
ล่าสุด “รงค์ บุญสวยขวัญ” จับมือกับวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช ทำโครงการกระถางศรีมหาโพธิ์ วางบนถนนพุทธภูมิ สู่การท่องเที่ยวเมืองนคร ให้ถนนสายพุทธภูมิ เป็นถนนเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยจัดทำกระถางใส่ต้นโพธิ์ จำนวน 100 ต้น ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน หรือก่อนเดือน ธ.ค.นี้
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเส้นทางสู่การท่องเที่ยวเมืองนคร เชื่อมโยงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สู่มรดกโลก รองรับการท่องเที่ยวในอนาคต
เขาว่า โครงการดังกล่าว ได้รับงบประมาณจากแผนการฟื้นฟูของรัฐบาล และเห็นว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมาก อันจะนำไปสู่การดึงดูดนักท่องเที่ยวในอนาคต
ส.ส.รงค์ กล่าวว่า นครศรีธรรมราชบ้านเกิดของเขายังต้องปรับปรุงแปลงแปลงอีกมาก โดยการจะเปลี่ยนแปลงเมืองนครศรีธรรมราชนั้น จะต้องเอาคนนครศรีธรรมราชเป็นตัวตั้ง เพื่อจะได้รู้ว่าชาวเมืองมีความคิดเห็นและต้องการอะไร
จากนั้น จึงค่อยทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นนครการเมืองแห่งความหวัง เพื่อรองรับอนาคตของลูกหลานในอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้า โดยนครศรีธรรมราชต้องมีความหวังบนการบริหารจัดการของชาวนครศรีธรรมราชด้วยกันเอง เขาเห็นว่า เมื่อเมืองมีความหวัง มีความน่าอยู่ ประชาชนก็จะมีความสุข
“หากจะเปลี่ยนแปลงเมืองนครฯรองรับอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะต้องทำในลำดับต้นๆ นับจากนี้ 1.เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในการรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาการพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราชนั้น ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก 2.การพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น การป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน โรคภัยไข้เจ็บ การศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุและเยาวชน
ง่ายๆคือเราจะต้องทำให้นครศรีธรรมราชมีโครงข่ายการจราจรที่ไหลเวียนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็น ในตัวเมือง นอกเมือง ชานเมือง รองรับการขยายตัวของเมือง ให้มีถนนวงแหวนล้อมรอบนอก ถนนหลายเส้นทางจะต้องมีอุโมงค์ลอด หลายเส้นทางจะต้องขยายเป็น 4 เลน”
เขาว่า ในอีก 10 – 20 ปีข้างหน้า จังหวัดนครศรีธรรมราชต้องมีถนนหนทางรองรับการขนส่งของทั้งประเทศ เช่น การขนส่งทางราง ซึ่งรถไฟรางคู่ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า เหล่านี้จะต้องมีการเตรียมการรองรับ
รองศาสตราจารย์รงค์ บุญสวยขวัญ ได้ใช้บทบาทความเป็น ส.ส.สะท้อนถึงปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนครศรีธรรมราชอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ซึ่ง ส.ส.รงค์ คาดหวังจะให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
ส.ส.เขต 1 นครศรีธรรมราช รายนี้ พูดถึงการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งประสบปัญหาไม่ต่างจากจังหวัดอื่นๆในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำประปาไม่พอใช้ เป็นต้น
เขาว่า ประชาชนบางส่วนขาดแคลนน้ำประปาหรือน้ำประปาไม่มีคุณภาพ และหลายส่วนมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำทางการเกษตร มิหนำซ้ำยังเกิดปัญหาเมื่อถึงฤดูแล้ง ทำให้น้ำขาดแคลน
อาจารย์รงค์ คิดว่า หากจะพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราช ให้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นเมืองที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว จะต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ
ด้วยเหตุนี้ “อาจารย์รงค์” จึงสนับสนุนโครงการพระราชดำริเพื่อบรรเทาอุทกภัยภาคใต้ รวมถึงโครงการบรรเทาอุทกภัยทางเลี่ยงเมืองของนครศรีธรรมราช ที่รัฐบาลปัจจุบันได้อนุมัติงบประมาณไว้แล้ว 9.5 พันล้านบาท และหวังว่าจะเสร็จสิ้นตามแผนงาน
“แน่นอนโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ จะต้องกระทบกับชาวนครศรีธรรมราช เพราะโครงการเหล่านั้น มีทั้งผลบวกและผลต่อประชาชน ดังนั้นสิ่งสำคัญของการลงทุน คือการนำโอกาสที่จังหวัดได้รับไปขับเคลื่อนไปข้างหน้า พร้อมกับดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช่น การเวนคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการ เป็นต้น”
หากจำกันได้ เมื่อปลายปี 2562 เกิดน้ำท่วมใหญ่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ครั้งนั้น “อาจารย์รงค์” ได้ใช้สิทธิ์ ส.ส.กระทู้ถึงรัฐบาลว่า การเยียวยาจิตใจของประชาชน มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเยียวยาด้วยเงินช่วยเหลือ
ดังนั้น ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเยียวยาจิตใจของประชาชนชาวนครศรีธรรมราชด้วย
ไม่นานนัก “บิ๊กตู่” หอบคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมและให้กำลังใจประชาชนชาวนครศรีธรรมราช เรียกว่า ได้ใจคนใต้ไปเต็มๆ
สำหรับบทบาท ส.ส.ของ “รงค์ บุญสวยขวัญ” เรียกว่า ทำหน้าที่ได้ครบทุกรูปแบบ
งานการเมือง เขาถือว่ามีความโดดเด่นในการอภิปรายช่วยชี้แจงแถลงไข เป็นเกราะป้องกันแก่รัฐบาลได้เป็นอย่างดี
กระนั้น “รงค์ บุญสวยขวัญ” ก็ไม่เคยลืมที่จะเอาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ตนเองมาหารือ พูดคุยในกันสภา ตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ส.ส.คนหนึ่ง เพื่อภารกิจเตรียมพร้อมเมืองนครศรีธรรมราช รับรองอนาคต