กฤษฎีกา โต้ “ส.ว.พลเดช” ปูด แก้ พรบ.ประชามติ ไม่ทัน
โฆษก กฤษฎีกา โต้ “ส.ว.พลเดช” ปูด แก้ พรบ.ประชามติ ไม่ทัน โวย องค์กรเสียหาย ต้องรับผิดชอบ
จากกรณี นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ส.ว. ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เปิดเผยแก้เนื้อหาของร่างกฎหมาย หลังจากที่มาตรา 9 ได้ปรับแก้ไขตาม กมธ.เสียงข้างน้อย โดยบอกว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลาที่ขอไว้ 1 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า การให้ข่าวเช่นนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะกรณีดังกล่าวหาได้เป็นเช่นที่มีการให้ข่าวแต่อย่างใดไม่ จึงขอให้ผู้ให้ข่าวที่บิดเบือนความจริงเช่นนี้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในความเสียหายต่อชื่อเสียงของสำนักงานฯ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ ต่อการกระทำเช่นนี้
เรื่องดังกล่าว ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. และ ร่าง พ.ร.ฎ.ปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. ภายหลังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่าในการประชุมสมัยวิสามัญครั้งที่ผ่านมานั้น มีการพิจารณาเรื่องด่วน ประกอบด้วย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ,ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ,ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ วาระ 2 ซึ่งยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ
ดังนั้น ครม.จึงเห็นชอบให้ออกร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา คาดว่าจะมีการเปิดประชุมในวันพุธที่ 7 และ วันพฤหัสบดีที่ 8 เม.ย.2564 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ วาระ 2 และกฎหมายอื่นๆ
นายอนุชา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างมาก โดยเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเกิดขึ้นได้ต้องมีการทำประชามติ ซึ่งนายกฯ มีความจริงใจที่จะให้กฎหมายได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาตามความหมาะสม โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ว่าต้องให้ความสำคัญกับกฎหมายเหล่านี้ด้วย