ปปง.อวดผลงาน 5 ปี ยึด-อายัดทรัพย์ 47,000 ล้าน
ปปง. โชว์ผลงาน 5 ปี สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายผู้กระทำความผิด รวมกว่า 47,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมด้วย พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. แถลงข่าวเกี่ยวกับการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดราย นายหลงจู๊ หรือนายสมชาย จุติกิติ์เดชา กับพวก และราย นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ น.ส.บานเย็น ชาญนรา (มารดาของเสี่ยโป้ฯ) กับพวก โดยได้ยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดมูลฐาน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลดังกล่าว รวมทั้งสิ้นจำนวน 430 รายการ
เช่น เงินในบัญชี เงินฝากธนาคาร เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ ยานพาหนะ ห้องชุด ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 1,200 ล้านบาท พร้อมดอกผล ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
โดยคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2564 มีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินตามที่เสนอ ซึ่งเมื่อสำนักงาน ป.ป.ง.ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วจะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป และสำนักงาน ป.ป.ง. อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์มากกว่า 100 ราย
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง.เน้นการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด ซึ่งตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา มีผลการปฏิบัติงานในการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรวมมูลค่ากว่า 47,469 ล้านบาท โดยมีคดีสำคัญ ได้แก่
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริต รวมมูลค่าประมาณ 23,034 ล้านบาท เช่น คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐ, คดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียตำบลคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ, คดีกรณีการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) เป็นต้น
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนกว่า 10 คดี เช่น คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด, คดี Forex-3D, คดีแชร์แม่มณี, คดี บจก.เอนเนอร์จี่ ดีดักชั่น, คดีฉ้อโกงขายหน้ากากอนามัย เป็นต้น รวมมูลค่าประมาณ 3,985 ล้านบาท
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน รวมมูลค่าประมาณ 1,346 ล้านบาท ได้แก่ คดีเครือข่าย หลงจู๊ หรือ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา กับพวก, คดีนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ กับพวก นางสาวบานเย็น ชาญนรา (มารดาของเสี่ยโป้ฯ) กับพวก และคดีเครือข่ายพนันออนไลน์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวมมูลค่าประมาณ 1,133 ล้านบาท เช่น คดีเครือข่าย นายไซซะนะ แก้วพิมพา กับพวก เป็นต้น
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เช่น คดีสถานบริการอาบอบนวดนาตารี, คดีสถานบริการธารทิพย์อาบอบนวด เป็นต้น รวมมูลค่าประมาณ 799 ล้านบาท
– คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ รวมมูลค่าประมาณ 10,742 ล้านบาท
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ได้แก่ คดีนายเจ้า หราน (สัญชาติจีน) กับพวก มูลค่าประมาณ 213 ล้านบาท
-การกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิและลักทรัพย์เป็นปกติธุระ มูลค่าประมาณ 153 ล้านบาท ได้แก่ คดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด
และในระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2563 มีการดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด จำนวน 132 คดี มูลค่าประมาณ 1,314 ล้านบาท
พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 สำนักงาน ปปง. มุ่งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบูรณาการการทำงานเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงาน ซึ่งในระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึงปัจจุบัน สามารถดำเนินการกับทรัพย์สินฯ จำนวน 63 คดี มูลค่าประมาณ 1,563 ล้านบาท และมุ่งมั่นดำเนินการอย่างเข้มข้นและเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศชาติ ภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่า “ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้น ต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไขด้วยกฎหมายฟอกเงิน” ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1710