“ธีรัจชัย” ปูด บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ช่วยคดี บอส อยู่วิทยา
อภิปรายไม่ไว้วางใจเข้มข้น ก้าวไกล แฉ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ช่วยคดี บอส อยู่วิทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 16-19 ก.พ. ในวันที่ 2 เป็นไปอย่างเข้มข้น นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องในการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในคดี วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 เพราะหลังรัฐประหาร ปี 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ขึ้นมา พร้อมตั้งคณะกรรมธิการกฎหมายฯ ขึ้นมาพิจารณาในคดีดังกล่าว โดยมีน้องชาย พล.อ.ประวิตร เป็นประธานกรรมาธิการ และน้องชายของ พล.อ.ประวิตร อีกคน เป็นกรรมาธิการด้วย นอกจากนี้ยังมีคู่เขยของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นกรรมาธิการ โดยกรรมาธิการรวม 5 คน มีความใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ กระทั่ง กรรมาธิการดังกล่าวมีความเห็นให้ไม่มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา
นายธีรัจชัย กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังจาก วรยุทธ หนีออกนอกประเทศ ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2560 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ได้ออกหมายแดง อินเตอร์โพล เพื่อติดตามจับกุม แต่ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. 2560 พล.ต.ต.อภิชาติ กลับถูกคำสั่งย้ายออกจากหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากมีการประชุม ก.ตร.ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน แล้วต่อมา จึงมีการถอนหมายแดง ทำให้คดีดังกล่าว วรยุทธ์ เป็นเพียงบุคคลธรรมดา ไม่ได้อยู่ระบบของอินเตอร์โพล
นายธีรัจชัย กล่าวาว่า ต.ค.2561 พล.ต.ต.อภิชาติ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ต่อมา ส.ค.2562 กลับถูกย้ายไปอยู่กองส่งกำลังบำรุง ภายหลังการประชุม ก.ตร.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน จากนั้นวันที่ 7 ต.ค.2562 วรยุทธ์ ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการครั้งที่ 14 ภายหลังร้องขอแต่ไม่เป็นผลแล้ว 13 ครั้ง และวันที่ 20 ม.ค.2563 อัยการสั่งไม่ฟ้อง ทั้งนี้ หาก พล.ต.ต.อภิชาติ ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม จะมีอำนาจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว
นายธีรัจชัย กล่าวว่า หลังจากอัยการไม่สั่งฟ้อง จะเห็นว่าคดีดังกล่าว เป็นไปอย่างค่อนข้างเงียบ โดยเป็นการสมรู้ร่วมคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร กระทั่งสำนักข่าว CNN นำเสนอข่าวว่า วรยุทธ์ หลุดพ้นทางคดี จึงทำให้สังคมกลับมาสนใจอีกครั้ง
“ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบ โดยมีอาจารย์วิชา มหาคุณ เป็นประธาน กระทั่งมีรายงานออกมา ถามว่าท่านกล้าเปิดเผยรายงาน 5 พันหน้าดังกล่าว ให้ประชาชนทราบหรือไม่ ท่านไม่ฆ่าน้อง ฟ้องชาย แต่ท่านทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม ถือว่าสั่นคลอนกระบวนการยุติธรรม ใช้อำนาจปัดเป่า เสนอผลประโยชน์ให้กับตนเอง นี่หรือที่บอกว่ารัฐประหารเพื่อปราบทุจริต สุดท้ายเข้ามาเพื่อช่วยกัน ท่านรับผลประโยชน์อย่างไร นอกจากนี้ ยังไม่เห็นว่ามีการสอบเอาผิดกรรมาธิการ สนช.และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พรรคพลังประชารัฐ กำลังจะส่งลงผู้ว่า กทม.”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ตนรังเกียจคนหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะออกหมายอะไรก็ไม่เคยได้กลับมา
พล.อ.ประยุทธ์ คดีนี้ได้มอบหมายให้ ปปท.ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย แจ้งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการตั้งอนุกรรมการ 3 คณะสอบสวนคดีอาญาใหม่และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของความร่วมมือกับต่างประเทศ ทางกองการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกระบวนการ แต่จะไม่มีผลให้ต่างประเทศช่วยจับกุม โดยหมายแดงนั้น ออกตามข้อมูลที่สามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ถูกต้อง รัฐบาลไม่ได้สบายใจ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ขอให้เห็นใจการทำงาน และต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย