นายกฯ ประชุมคอนเฟอเรนซ์ ติดตามโควิดสมุทรสาคร
นายกรัฐมนตรีประชุม VDO Conference ร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร ติดตามการบริหารสถานการณ์โควิด-19
เวลา 10.30 น. วันที่ 18 ม.ค. ณ ห้องศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO Conference กับจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา และรับทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อธิบดีกรมควบคุมโรคและปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมประชุมด้วย
นายกรัฐมนตรีขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครที่ทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความเสียสละ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังให้มากที่สุดเพราะยังพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่อยู่มาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็ระมัดระวังตนเองไม่ให้ป่วยโดยมีการตรวจหาเชื้อ covid19 อยู่เสมอ เพราะยังมีงานอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ ขอยืนยันขณะนี้นายกรัฐมนตรีปลอดภัยไม่มีเชื้อ covid-19
โอกาสนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร สรุปรายงานภาพรวมสถานการณ์ covid-19 ของจังหวัดสมุทรสาครว่า นับตั้งแต่การพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกที่ตลาดกลางกุ้ง 1 ราย เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากจนมีคำสั่งล็อคดาวน์ ตลาดกลางกุ้ง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึงปัจจุบันนี้พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,679 ราย ประกอบด้วยทั้งคนไทยและต่างด้าว รักษาหายป่วยจำนวน 3,059 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,619 ราย เสียชีวิต 1 ราย
สำหรับโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร มีทั้งหมด 9 แห่ง มีเตียงรองรับ 3,620 เตียง พร้อมใช้งาน 5 แห่ง จำนวน 1,560 เตียง และใช้งานแล้ว 556 เตียง ยังคงเหลือที่สามารถใช้งานได้อีก 1,004 เตียง และยังมีโรงพยาบาลสนามเตรียมพร้อมอีก 4 แห่ง จำนวน 2,060 เตียง ยืนยันมีโรงพยาบาลและเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วยทั้งในปัจจุบันและอนาคต ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในพื้นที่จัดตั้งศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร Factory Quarantine มีทั้งหมด 15 แห่งด้วย ซึ่งพร้อมดูแลแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติในพื้นที่ สำหรับในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งมีแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่ 2,847 ราย ได้มีการกักกันแยกไว้ที่โรงพยาบาลสนาม 1,547 ราย ซึ่งมีผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 ด้วย ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่สามารถแพร่เชื้อ ในวันที่ 22 ม.ค. 64 จะตรวจเพิ่มเติมอีกครั้งหากพบผู้ติดเชื้อจะทำการคัดแยกมาที่โรงพยาบาลสนาม รวมทั้งมีกำหนดทำ Big Cleaning Day ในวันที่ 26 ม.ค. 64 เพื่อให้ตลาดกลางกุ้งจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในวันที่ 27 ม.ค. 64
สำหรับการจัดตั้งจุดคัดกรองทางบกและทางน้ำ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมกำชับประชาชนให้ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะและไทยชนะ เพื่อบันทึกการเดินทาง ขณะเดียวกันจังหวัดสมุทรสาครยังคงใช้มาตรการปิดสถานที่เสี่ยงในหลายๆ แห่ง ยกเว้นสถานที่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น ร้านค้าปลีก โดยไม่ให้กระทบต่อการจ้างงานแต่ยังอยู่ภายใต้มาตรการของ ศบค.
ทั้งนี้ การป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของจ. สมุทรสาคร ได้รับการสนับสนุนทั้งจากทางภาครัฐและเอกชน รวมทั้งได้เสริมในส่วนของล่าม ยานพาหนะ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องดื่ม อาหาร แอลกอฮอล์ อีกทั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ ยังให้ใช้พื้นที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จำนวน 1,000 เตียงด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ กล่าวว่า มีความห่วงใยและได้สั่งการให้กองทัพช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แสดงความเป็นห่วงทั้งแรงงานต่างชาติและแรงงานไทยที่ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ในช่วงนี้ ขอให้จังหวัดประสานกับกระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบตัวเลขแรงงานต่างชาติทั้งที่ถูกกฎหมายและที่ไม่ถูกกฎหมาย เพื่อจะได้ทราบตัวเลขที่แท้จริง รวมทั้งฝากจังหวัดและภาคเอกชนช่วยดูแลแรงงานเท่าที่จะทำได้ เช่น คงการจ้างงาน เพื่อให้ยังอยู่ได้โดยไม่ต้องออกจากพื้นที่ ลดความเสี่ยงการกระจายเชื้อไปพื้นที่อื่น สำหรับการเปิดตลาดกลางกุ้งในครั้งนี้ ต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะจะต้องคัดกรองคนในพื้นที่ ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ขนส่ง รวมไปถึงชาวประมงที่นำเรือขึ้นฝั่งด้วย เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้ออีก รวมทั้งอาจจัดตั้งให้มีตลาดกลางซื้อ-ขายสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้สินค้าอาหารทะเลสามารถกระจายไปได้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวในช่วงท้าย ขอให้ช่วยกันรณรงค์สวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า บันทึกการเดินทางผ่านแอพลิเคชันป้องกันโควิด-19 มั่นใจว่า มีการผลิตหน้ากากออกมาเพียงพอเนื่องจากมีการส่งเสริมให้พื้นที่ท้องถิ่น ชุมชน ช่วยกันผลิตหน้ากากผ้าเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน พร้อมฝากไปยังหน่วยงานชี้แจงประชาสัมพันธ์ อาการบ่งชี้ของโควิด-19 คือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรส นอกเหนือจากจะมีไข้ เจ็บคอ เพื่อลดความกังวลของประชาชน รวมทั้งขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมวัคซีนโควิด-19 ซึ่งรออนุมัติจากองค์การอาหารและยาทั้งจากประเทศต้นทางและปลายทาง และอยู่ในการบริหารของสถาบันวัคซีน ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมดูแลคนไทยทุกคน