บก.ผนึก BCI ยกระดับให้บริการ e-LG ปีละ 1.35 ลล.
BCI หนุนกรมบัญชีกลาง ยกระดับการจัดซื้อจัดจ้าง วงเงิน 1.35 ล้านบาทต่อปี ผุดให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ (e-LG) ครั้งแรกของหน่วยงานรัฐ เผย! ลดเวลาจาก 3-7 วันเหลือแค่ 10 นาที มีส่วนช่วยให้โครงการรัฐเดินหน้าเร็วขึ้น ด้านสมาคมแบงก์ตั้งเป้า 5 ปี รุกขยายบริการครอบคลุม 80% ของหนังสือค้ำประกันในประเทศ
จากนี้…กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ไม่เพียงจะสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และโปร่งใส หากยังจะเป็นการเพิ่มประสิทธิพภาพและประสิทธิผล ส่งผลให้การดำเนินงานของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะการให้บริการขอหนังสือค้ำประกัน ที่มีมากถึง 5 แสนฉบับต่อปี รวมวงเงินกว่า 1.35 ล้านล้านบาท
หลังจาก กรมบัญชีกลาง (บก.) ร่วมกับ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (Thailand Blockchain Community Initiative : BCI) เปิดบริการขอหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ (e-LG) ครั้งแรกของหน่วยงานรัฐ โดยมี สมาคมธนาคารไทยและผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ชั้นนำร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อช่วงสายวันที่ 14 ธ.ค.2563 ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ร.ร.ดิ แอทธินี แบงค็อก
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุว่า การให้บริการขอหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเทคโนโลยี Blockchain จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการข้อมูลมากขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยให้การบริการมีความสะดวก รวดเร็ว สามารถอนุมัติรายการได้เร็วสุดภายใน 10 นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลากว่า 3-7 วัน ตอกย้ำการให้บริการด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และยังช่วยลดการใช้กระดาษ ลด Carbon Footprint เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วย
“ขณะนี้ มีธนาคารมากกว่า 16 แห่งที่พร้อมให้บริการ e-LG ผ่านเทคโนโลยี Blockchain ของ BCI Platform ร่วมกับกรมบัญชีกลาง โดยคาดหวังว่าในปีหน้า จะขยายให้รองรับบริการได้มากกว่า 22 แห่ง เพื่อยกระดับการให้บริการก้าวทันโลกในยุคดิจิทัล” อธิบดีกรมบัญชีกลาง ย้ำและว่า การให้บริการ e-LG ถือเป็นเฟส 2 ต่อจากการเปิดให้มีการขอหนังสือรับรองอิเล็กทรอนิกส์ก่อนหน้านี้ ส่วนเฟส 3 จะมุ่งเน้นที่ในเรื่องของการตรวจสอบในขั้นตอนต่างๆ ซึ่งคงจะดำเนินการได้ในปี 2564
ด้าน นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การร่วมพัฒนาบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ e-GP ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ระหว่างกรมบัญชีกลาง และ BCI นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของประเทศ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภาคธุรกิจ แต่รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐต่างๆ สอดคล้องกับพันธกิจหลักของธปท.ในการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการทางการเงินดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ขณะที่ นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ย้ำว่า BCI ภายใต้ความร่วมมือของของธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย มีเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในภาคธุรกิจและภาครัฐ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ ให้สามารถเติบโตได้ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล
“สมาคมธนาคารไทย และ BCI ได้สนับสนุนบริการ e-LG บนเทคโนโลยีบล็อกเชนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการแล้ว 16 ธนาคาร และมีแผนจะรองรับไปยังธนาคารพันธมิตรให้ครบทั้ง 26 ธนาคารในอนาคต โดยปัจจุบันมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้าร่วมเป็นผู้รับหนังสือค้ำประกันกว่า 10 แห่ง โดยกรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานล่าสุดแห่งที่ 11 ซึ่ง BCI ตั้งเป้าจะขยายบริการให้ครอบคลุม 80% ของหนังสือค้ำประกันในประเทศทั้งหมด ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีการใช้หนังสือค้ำประกันอยู่ 500,000 ฉบับต่อปี วงเงินรวมกว่า 1.35 ล้านล้านบาท” ประธานสมาคมธนาคารไทย ระบุ.