สรุปข่าว 12-12-63
ดาวโจนส์ขึ้นเดี่ยว : ตลาดหุ้นสำคัญของโลก ปิดตลาดเมื่อ 11 ธ.ค.63 (ตรงกับเช้า 12 ธ.ค.ในไทย)
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นแรงเดี่ยวๆ ถึง 47.11 จุด (0.16%) ปิดที่ 30,046.37 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ร่วงสวนทาง โดยดัชนีเอสแอนด์พี ลดลง 4.64 จุด (-0.13%) ปิดที่ 3,663.46 จุด แนสแดคลดลง 27.94 จุด (-0.23%) ปิดที่ 12,377.87 จุด เช่นเดียวกับดัชนีนิเคอิ ที่ดิ่งลงแรงถึง 103.72จุด -0.39) ปิดที่ 26,652.52 จุด ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดทำการซื้อขาย.
46.55 -0.23 -0.49%
49.98 -0.27 -0.54%
น้ำมันขยับขึ้น : ราคาน้ำมันโลก ปิดตลาดเมื่อเวลา 03.59 น.ของวันที่ 12 ธ.ค. ตามเวลาประเทศไทย โดยสัญญาซื้อข่ายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส เดือน ม.ค.ปีหน้า ลดลง 0.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.49%) ปิดที่ 46.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เดือน ก.พ.ปีหน้า ลดลง 0.27ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.54%) โดยราคาปิดอยู่ที่ 49.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันขายปลีกในไทย ยังเป็นราคาเดิมเหมือนหลายวันที่ผ่านมา.
ทองไทยเพิ่ม 50 บ. : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เมื่อ 11 ธ.ค. ตรงกับเวลา 05.00 น. 12 ธ.ค.ในไทย ปรับตัวขึ้น 2.88 ดอลลาร์ (0.16%) ปิดที่ 1,839.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในไทย สมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวันเพียง3 ครั้ง โดยมีราคาเปิด (09.31 น.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากราคาปิดครั้งก่อน จากนั้น ราคาก็ลดลงในช่วงเที่ยง ก่อนจะดีดขึ้นกลับไปสู่ราคาเดิม จนราคาปิดสุดท้าย (15.11 น.) เพิ่มจากราคาวานนี้ (11 ธ.ค.) 50 บาท โดยราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 26,050 บาท ขาย 26,150 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 25,574.92 บาท ขาย 26,650 บาท.
บาทแข็งขึ้น : ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หลังจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ปิดทำการซื้อขายนับแต่วันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยค่าเงินบาทเทียบกับดอลลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.อยู่ที่ 30.023 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ สรอ.
ปลุกไล่ ‘ประยุทธ์’ : นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุช่วงหนึ่งของการปราศรัยที่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เพื่อหาเสียงช่วยเหลือ นายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายก อบจ. บึงกาฬ ว่า ถ้ากาให้คณะก้าวหน้า พี่น้องจะได้การเมืองแบบใหม่ๆ ได้เปลี่ยนตัวนายก อบจ. อีกทั้งยังได้ส่งสัญญาณว่าคนบึงกาฬไม่สนับสนุนประยุทธ์ ไม่เอาประยุทธ์ และไม่ต้องรออีก 10 ปี วันที่ 20 ธ.ค.นี้ไปกากบาทเลือกผู้สมัครคณะก้าวหน้า นั่นคือการแสดงออกว่ายังรักและสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไป.
ยกครม.เยี่ยมฯ : นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล เผยว่า นายกรัฐมนตรี จะนำครม.ทั้งคณะ นั่งรถบัสออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาเยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทดลองการเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ- สถานีดอนเมือง-สถานีกลางบางซื่อ ในวันอังคารที่ 15 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ได้เคยเดินทางมาตรวจติดตามงานก่อสร้าง เมื่อ มี.ค. 62 และครั้งนี้จะได้นำครม.มาร่วมตรวจสอบความพร้อมงานบริการก่อนเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการเต็มรูปแบบในปี 64.
คิ๊กออฟ : นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานกดปุ่มจ่ายโอนเงินส่วนต่างประกันรายได้ชาวสวนยางพาราปีที่ 2 ตามที่ครม. ได้ให้ความเห็นชอบ ทำให้เกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างทั้งที่ถือบัตรสีเขียว(ผู้มีเอกสารสิทธิ) 9.6 แสนราย และบัตรสีชมพู (เกษตรกรกลุ่มด้อยโอกาสที่แจ้งปลูก) 3.4 แสนราย รวมแล้วจะมีเกษตรกรชาวสวนยางที่จะได้รับสิทธิเงินส่วนต่างประมาณ 1.3 ล้านรายทั่วประเทศ แต่ด้วยการประกาศราคาเกณฑ์กลางงวดนี้จะได้รับการชดเชย 2 ชนิด คือ ยางก้อนถ้วย น้ำยางสดเท่านั้น เพราะน้ำยางดิบได้ประโยชน์จากราคายางที่สูงทะลุราคาประกันรายได้ไปแล้ว.
มองไทยดีขึ้น : ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ระบุในรายงาน “Asian Development Outlook (ADO) 2020 Update” ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 63 ว่า จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ติดลบ 7.8% ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อ ก.ย. ที่ ที่ติดลบ 8% เนื่องจากเศรษฐกิจในไตรมาส 3/63 ติดลบที่ 6.4% น้อยลงเกือบครึ่งหนึ่ง จากไตรมาส 2/63 ที่ติดลบ 12.1% ขณะที่ปี 64 มองว่า เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 4% จากคาดการณ์เดิมที่ 4.5%.
บุคคลแห่งปี 63 : นิตยสารไทม์ประกาศผลการตัดสินใจเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ธ.ค.63 โดยยกย่อง โจ ไบเดน วัย 78 และ คามารา แฮร์ริส วัย 56 ปี เป็นบุคคลแห่งปีของไทม์ประจำปี 2563 และย้ำว่า ทั้งว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ และ แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐ ถือเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเรื่องราวของอเมริกา ด้วยการแสดงให้เห็นว่า พลังแห่งความเข้าอกเข้าใจบุคคลอื่นนั้นยิ่งใหญ่กว่าความเดือดดาลของการแบ่งแยก โดยการแบ่งปันวิสัยทัศน์ของการเยียวยาในโลกที่กำลังโศกเศร้า.
ขวัญใจเชียงใหม่ : เมย์ – ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ อายุ 27 ปี หมายเลข MT13 ประเดิมรางวัลแรกตำแหน่งขวัญใจเชียงใหม่ ไปครองได้สำเร็จ จากการจัดงาน Chiang Mai Gala night โดยกองประกวดนางสาวไทย ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของค่ำที่ผ่านมา โดยในงานจะมีการเปิดขายบัตรที่นั่งและดอกไม้ เพื่อนำมานับเป็นคะแนนให้กับผู้เข้าประกวด รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กาชาดเชียงใหม่ ณ ห้อง แอท นิมมานคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรม ยู นิมมาน.