สรุปข่าว 7-12-63
ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 14 ราย จากกทม. 1 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันที่ 7 ธ.ค. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 14 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน 10 ราย ส่วนอีก 3 รายเดินทางมาจากเมียนมา แต่ไม่ได้เข้าในสถานที่กักกัน ขณะที่เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย จากกรุงเทพมหานคร สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 4,086 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,458 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,628 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย ขณะที่สาธารณสุขยืนยันไม่ระบาดระลอก 2
สธ.เชียงใหม่แนะพิจารณาปิดโรงเรียน/หน่วยงานตามเกณฑ์
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 5 คน โดยการจะพิจารณาว่าจะปิด หรือไม่ปิด สถานศึกษา สถานประกอบการ หรือหน่วยงานราชการ ขอให้ยึดเกณฑ์ของกรมควบคุมโรค ดังนี้ 1. กรณีพบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือเสี่ยงต่ำในหน่วยงาน ไม่ต้องปิดทำการ สามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ 2. กรณีพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในโรงเรียน สถานประกอบการ หรือหน่วยงาน สามารถปิดทำการได้
สธ.ให้ผู้โดยสาร 4 เที่ยวบินที่มีผู้ป่วยติดโควิด-19 สังเกตตัวเอง
กระทรวงสาธารณสุขขอให้ผู้โดยสาร 4 เที่ยวบิน ที่มีผู้ป่วยยืนยันติดโควิด-19 ให้สังเกตตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หากพบอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ได้แก DD8717 สายการบินนกแอร์ วันที่ 28 พ.ย. 2563 เวลา 13.40 น. SL533 สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ วันที่ 29 พ.ย. 2563 เวลา 10.40 น. WE137 สายการบินไทยสมายล์ วันที่ 29 พ.ย. 2563 เวลา 20.30 น. และ SL545 สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ วันที่ 30 พ.ย. 2563 เวลา 19.15 น.
นายกฯคุมเข้มโควิดภาคเหนือหนุนท่องเที่ยวปลายปี
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยขอให้ทุกภาคส่วนคุมเข้มในมาตรการป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ติดติดตามตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในการวางแผนท่องเที่ยว ทั้งช่วงหยุดยาว 10 -13 ธ.ค. เทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่
‘คนละครึ่ง-ช้อปดีมีคืน’หนุนคนกรุงใช้จ่ายปลายปีกว่า 3 หมื่นลบ.
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 พบว่า คนส่วนใหญ่ยังมีแผนทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายรวมในช่วงปีใหม่ 2564 (ปลายเดือนธ.ค.63 ถึงต้นเดือน ม.ค.64) หากไม่มีมาตรการกระตุ้นของรัฐ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 5,300 บาทต่อคน แต่ผลของมาตรการที่กระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ถึงไตรมาสแรกปี 2564 คาดว่า เม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 น่าจะอยู่ที่ 30,050 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า
จุรินทร์ ปลื้มราคาปาล์ม-ยางดีขึ้นมาก ช่วยหนุนรายได้เกษตรกร
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าขณะนี้ถือเป็นข่าวดีที่ราคายางพาราและปาล์มน้ำมันดีขึ้นมากในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาปาล์มเฉลี่ยอยู่ที่ กิโลกรัมละ 6-7 บาท และราคายางพาราเหนือกว่าเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรชาวภาคใต้และเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศสามารถมีรายได้ที่ดีขึ้น แต่หากราคาปรับลดลง รัฐบาลยังมีนโยบายประกันรายได้ที่จะเข้าไปชดเชยส่วนต่างที่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาทสำหรับยางแผ่น และต่ำกว่ากิโลกรัมละ 57 บาทสำหรับน้ำยางข้น และกิโลกรัมละ 23 บาท สำหรับยางก้อนถ้วย
ไทยพร้อมจัดแข่งแบดมินตันระดับโลกเดือน ม.ค.64
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยินดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน HSBC BWF World Tour in Bangkok ในภูมิภาคเอเชีย ในเดือนมกราคม 2564 ซึ่งสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับสิทธิ์ในการจัดการแข่งขัน ทั้งหมด 3 รายการ ประกอบด้วย 1. YONEX Thailand Open (Super 1000) 2. TOYOTA Thailand Open (Super 1000) และ 3. HSBC World Tour Finals
“สุริยะ”สั่งอุตสาหกรรมจังหวัดช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่น้ำท่วม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้ติดตามผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานสถานการณ์และสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป
เล็งต่อเวลาผ่อนเบี้ยประกัน
นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. เตรียมพิจารณาขยายมาตรการผ่อนปรนการชำระเบี้ยประกันที่กำลังสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ต่อไปจนถึงปีหน้า เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด โดยคาดว่าจะอนุญาตให้ผู้เอาประกันชำระเบี้ยประกันทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ที่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาดของโควิด และมีการประกาศล็อกดาวน์
ดีอีเอส เตือนองค์กรรับมือมัลแวร์เรียกค่าไถ่
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า พบสถิติการโจมตีของมัลแวร์ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ย.63 มีการโจมตีทั้งสิ้น 1,969 ครั้ง มาในลักษณะของมัลแวร์ที่เข้ามาแฮกระบบ เพื่อสร้างความเสียหายต่อข้อมูลสำรอง ซึ่งการรับมือและป้องกันมัลแวร์ต่างๆ เบื้องต้นอาจพิจารณาบล็อกการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง ตามข้อแนะนำของศูนย์ไทยเซิร์ต นอกจากนี้ ควรอัพเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ รวมถึงโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงในการเปิด Macro จากไฟล์เอกสารแนบที่มากับอีเมล
เหนืออุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศากทม.ต่ำสุด20องศา
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศวันที่ 7 ธ.ค.63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง ในขณะที่ลมตะวันตกพัดพาความหนาวเย็นจากประเทศเมียนมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวและอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม.และปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส