ลูกหนี้ ธอส.แข็งแกร่งกว่าที่คิด จ่ายหนี้แล้ว 87%
ธอส.อึ่ง! ลูกหนี้แข็งแกร่งกว่าที่คิด กลับมาส่งเงินต้นและดอกเบี้ยได้มากถึง 87% ของหนี้รวม 2.78 แสนล้านบาท เหตุเพราะรัฐอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พ่วงพักชำระหนี้ในช่วงที่ผ่านมา เผย! มีลูกหนี้เบี้ยวเพียง 4.5% ต่ำกว่าคาดการเดิม 20% “ฉัตรชัย” เชื่อ! ยืดชำระหนี้ออกไปอีก 4 วัน ดึงจ่ายเพิ่ม 0.5% พร้อมเข้าไปดูแลกลุ่มชำระบางส่วนโดยเร็ว
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือหนี้ในระยะที่ 2 ของธนาคารฯที่เริ่มมีผลกับบางมาตรการในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.2563 ไปแล้ว ว่า จำนวนหนี้รวมราว 2.75 แสนล้านบาทนั้น ลูกหนี้ได้ชำระคืน ณ ช่วงเช้าของวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา มากถึง 87% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมากและสร้างความประหลาดใจแก่คณะกรรมการฯและผู้บริหารของธนาคารฯอย่างมาก ขณะที่ 8% ลูกหนี้ได้ชำระหนี้มาเพียงบางส่วน และยังจ่ายไม่ครบงวด ส่วนอาจเป็นมีการปรับจำนวนเงินเพิ่มขึ้น หรือเพราะหลงลืมเนื่องจากพักชำระหนี้มานาน เป็นเรื่องที่ธนาคารฯจะเร่งเข้าไปดู
ขณะที่มีเพียงแค่ 4.5% ที่ไม่ชำระหนี้ โดยในกลุ่มนี้ ก็ถือว่ามีน้อยมากเมื่อเทียบกับที่เคยประมาณการไว้ที่ 20% และบางส่วนอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการที่แอปพลิเคชั่นของธนาคารที่ผูกบัญชีเงินฝากไว้มีปัญหา ซึ่งธนาคารฯได้ผ่อนปรน โดยการยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปอีก 4 วัน และไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ หากลูกค้าในกลุ่มนี้ สามารถชำระหนี้คืนมาได้ ก็คงไม่มากนัก น่าจะมีจำนวน 0.5% เท่านั้น
“ในเฟส 2 นี้ ถือว่าลูกหนี้ของเราค่อนข้างจะแข็งแรงในการจะกลับมาลุกขึ้นได้ตามปกติ ทำให้เราสบายใจกว่าที่คิดไว้ ส่วนตัวมองว่า มันสะท้อนจากมาตรการของรัฐ ทั้งจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงแบงก์รัฐที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนลูกหนี้มีการปรับตัว เพราะมีเวลาได้พักชำระหนี้ โดยเฉพาะลูกหนี้ผ่อนชำระบ้านของ ธอส. แต่กับภาพใหญ่คงต้องไปดูกันอีกที” กก.ผจก.ธอส. ย้ำและว่า
สถานการณ์นี้ ทำให้ธนาคารฯสามารถบริหารหนี้เสียได้ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะลูกหนี้ยังคงอยู่ ไม่ได้หนีหายไปไหน และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้ จากนี้ ธนาคารฯโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธนาคารฯจะออก มาตรการพิเศษ ในลักษณะ “เทรลเลอร์เมด” ช่วยเหลือเป็นรายบุคคลต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งคงต้องรอ ลูกหนี้กลุ่มสุดท้ายอีก 9 หมื่นล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือน ม.ค.2564 หากเราผ่านสถานการณ์หนี้เสียไปได้ เชื่อว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างแน่นอน.