สรุปข่าว 19-11-63
หุ้นสหรัฐฯดิ่งหนัก-หุ้นไทยปิดพุ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาด 18 พ.ย.63 ลดลง 344.93 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 29,438.42 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 41.74 จุด หรือ1.16% ปิดที่ 3,567.79 จุด แนสแดค ลดลง 97.74 จุด หรือ0.82% ปิดที่ 11,801.60 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด18 พ.ย.63 ที่ระดับ 1,364.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.78 จุด หรือ 1.09% มูลค่าการซื้อขาย 66,934.72 ล้านบาท
ทิศทางทองขาลง
ราคาทองคำในวันพุธ(18พ.ย.) ปิดลบ 2 วันติด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 11.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,873.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองในประเทศสมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ปิดตลาดราคาไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดวันก่อนหน้า โดย ทองคำแท่งซื้อเข้าบาทละ 26,900.00 ขายออกบาทละ 27,000.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 26,408.72 ขายออกบาทละ 27,500.00
น้ำมันขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์ ปิดที่ 41.82 ดอลลาร์ ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 59 เซ็นต์ ปิดที่ 44.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากความหวังโอเปกและพันธมิรเลื่อนแผนเพิ่มกำลังผลิต และหลังไฟเซอร์เผยว่าวัคซีนโควิด-19 ของพวกเขา มีประสิทธิภาพมากกว่าที่รายงานก่อนหน้านี้
เงินบาทปิดตลาดอ่อนค่า
เงินบาทปิดตลาด18 พ.ย.63 ที่ 30.30-30.31 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.22 บาท/ดอลลาร์ ผลจากที่ กนง.ได้พูดถึงการติดตามสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ที่อาจจะมีการทบทวนความจำเป็นของมาตรการดูแลค่าเงิน
นายกฯ ระบุยังไม่จำเป็นใช้ กม.พิเศษดูแลสถานการณ์ชุมนุม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในการควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ แม้จะความพยายามใช้ความรุนแรงมากขึ้นในการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นหน้ารับสภาเมื่อวานนี้ แต่จำเป็นต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น
S&P คงเครดิตไทย BBB+ มีเสถียรภาพ การเมืองไม่กระทบ
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ หนี้รัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายของรัฐบาล อีกทั้ง คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
รัฐสภา ลงมติรับหลักการร่างแก้รธน.ฉบับ 1และฉบับ 2
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประกาศผลการนับคะแนนในการลงมติของสมาชิกรัฐสภาในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ ปรากฎว่าที่ประชุมฯ มีมติรับหลักการวาระแรกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่เสนอโดยฝ่ายค้าน และฉบับที่ 2 ที่เสนอโดยรัฐบาล ขณะที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 3, ฉบับที่ 4, ฉบับที่ 5, ฉบับที่ 6 ของฝ่ายค้าน และ ฉบับที่ 7 ของภาคประชาชน ซึ่งเป็นประเด็นที่กลุ่มราษฎรเรียกร้อง ถูกปัดตกไปทั้งหมด
เก็บตก”คนละครึ่ง”อีก 7.2 แสนสิทธิเช้านี้
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)กล่าวถึงมาตรการคนละครึ่งว่า ที่ประชุม ศบศ. เห็นว่าสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนได้ในวงกว้าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคลังไปพิจารณาว่าจะทำเฟส 2 และนำกลับมาเสนอ ที่ประชุมศบศ.อีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. ล่าสุด พบว่ามาตรการ “คนละครึ่ง” มีร้านค้าลงทะเบียนแล้ว 7.1 แสนร้าน มีประชาชนลงทะเบียน 9.28 ล้านคน และยังเหลือสิทธิอีก 7.2 แสนสิทธิ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมในส่วนที่เหลือวันนี้ (19 พ.ย.) เพื่อให้ครบเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านคน
ศบศ.ผ่านมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบศ. ได้เห็นชอบตามการเสนอของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในมาตรการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย 2 มาตรการ 1. แพ็คเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมห้องพัก ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง บมจ.การบินไทย กับสมาคมโรงแรม 2. เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนอื่นๆ ในประเทศไทย ผ่านการเป็นสมาชิกบัตรอีลิทการ์ด แบบ Flex Plus ของชาวต่างประเทศ
ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าต.ค.เพิ่มขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในเดือนต.ค.63 อยู่ที่ระดับ 33.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.63 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 32.5 ปัจจัยบวก ได้แก่ กนง.ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 63 ใหม่ โดยคาดว่าจะอยู่ที่ -7.7% ดีขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ที่ -8.5%, รัฐบาลดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง และโครงการช้อปดีมีคืน ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ สถานการณ์ของการเคลื่อนไหวทางการเมือง และการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเยาวชน และประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ที่, ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อสังหาฯปี 63 ทรุด 10.3% คอนโดมิเนียมใหม่วูบ 50%
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใหม่ตลอดทั้งปี 63 คาดจะอยู่ที่ 351,640 หน่วย ปรับตัวลดลง 10.3% จากปีก่อนที่มี 391,964 หน่วย และมีมูลค่า 862,500 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากปีก่อนที่ได้ 930,751 ล้านบาท หรือลดไป 68,251 ล้านบาท และยังมีโครงการเปิดใหม่ปรับลดลงเหลือเพียง 71,467 หน่วย หรือลดลง 27.3% โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมลดลงถึง 50%
ไทยอุณหภูมิสูงขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 19 พ.ย.2563 ลักษณะอากาศทั่วไปบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศมาเลเซียและประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้