กอช.ดันยอดสมาชิกทะลุ1.2ล้านคน
กอช. เผยผลตอบแทนการลงทุนให้เงินออมของสมาชิก ปี 2560 เติบโต 4% พร้อมวางแผนเพิ่มสมาชิกปีนี้ พุ่งเป้านักเรียนนักศึกษา เกษตรกรและอื่นๆ ดันสมาชิกเพิ่ม 7 แสนล้าน รวมยอดสมาชิกสะสม 1.2 ล้านคน
“ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ก่อตั้ง กอช.ม ยอดสมาชิกสะสม 500,000 คน แต่ในปีนี้ ปีเดียว เราจะเพิ่มยอดอีก 700,000 คน รวมเป็น 1.2 ล้านคน ซึ่งปริมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว คิดเป็น 120% ถือเป็นงานที่ท้าทายมาก ” นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แถลงข่าวที่กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2561 พร้อมกล่าวว่า
“ ผลตอบแทนการลงทุนของ กอช. ในปีที่แล้ว มีสูงถึง 4% คำนวณตามมูลค่าหน่วยลงทุน (Net Asset Value : NAV) จากวงเงินลงทุนทั้งหมด 4,000 ล้านบาท โดยในปีที่แล้ว กอช. มีสมาชิก 530,417 คน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 45.1% ภาคกลาง 22% ภาคเหนือ 13% และภาคใต้ 10.1% หากแบ่งสัดส่วนตามกลุ่มอาชีพมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ เกษตรกร 54.7% ผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ 19% ผู้มีอาชีพค้าขาย 11% “
สำหรับในปีนี้ กอช.จะพยายามเพิ่มยอดสมาชิกอีก 700,000 คน รวมยอดสะสมปีที่แล้ว จะทำให้สิ้นปี 2561 สมาชิกของกอช.จะเพิ่มขึ้นแตะ 1.2 ล้านคน จากกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีสิทธิ์ทั้งหมดกว่า 20,000,000 คน โดย กอช.จะให้น้ำหนักภารกิจด้านการให้ความรู้การวางแผนเกษียณแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีระยะเวลาออมยาวคือ นักเรียนและนักศึกษาที่เริ่มออมได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี แต่ปัจจุบันมีผู้มาสมัครเพียง 2% จากจำนวนสมาชิก กอช. ทั้งหมด
โดย กอช.วางแผนที่จะเริ่มต้นโครงการสร้างครูต้นกล้าการออม และคัดเลือกสถานศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านส่งเสริมการออมให้เป็น “ โรงเรียนต้นกล้าการออม ” พร้อมกับขยายผลการรณรงค์สร้างวินัยการออมไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่นในพื้นที่ 10 จังหวัดที่จะดำเนินการก่อนในช่วงนี้ ซึ่งภารกิจการรณรงค์ส่งเสริมการออมเพื่อเพิ่มจำนวนผู้สมัครสมาชิก กอช. จะเป็นการขับเคลื่อนเร็วโดยร่วมกับหน่วยงานรัฐทั้ง 10 แห่ง ตามที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) “ การส่งเสริมความร่วมมือการออมกับ กอช.” ที่จะเป็นความร่วมมือในหลากมิติ ทั้งการเพิ่มยอดสมาชิก การประชาสัมพันธ์ และความร่วมมือจัดโครงการสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเสริมกำลังการออมให้กับสมาชิก กอช.
ขณะที่การลงทุนในปี 2561 กอช. ยังคงลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง มากกว่า 80% อาทิ เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่กำหนดรวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ ไม่เกิน 20% เช่น ตราสารทุน (หุ้น) หน่วยลงทุนประเภทกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนปัจจุบันของ กอช.และมีการปรับทิศทางการลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับสมาชิก เพื่อให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น โดยในด้านการลงทุนอาจเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดมากขึ้น แต่เป็นเพียงความผันผวนระยะสั้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการออมระยะยาวของสมาชิกหากสมาชิกมีการออมจนครบกำหนดอายุ 60 ปีซึ่งจะทำให้สมาชิก มีเงินออมเพียงพอ มีโอกาสได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ กอช.มีแผนที่จะเพิ่มการออมสินในส่วนของสมาชิก จากปัจจุบันปีละไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ซึ่งจะทำให้สมาชิกมีอัตราผลแทนมากขึ้นตามปริมาณเงินที่สมทบ จากปัจจุบัน กรณีที่สมาชิกสมทบปีละ 13,200 บาทตั้งแต่อายุ 15 ปีจนถึง 60 ปี ได้รับผลตอบแทนประมาณเดือนละ 7,000 บาทหลังจากการเกษียณเมื่ออายุครบ 60 ปีจนเสียชีวิต ทั้งนี้ หากเพิ่มวงเงินสะสมเป็น 30,000 บาทต่อปีแล้ว ผลตอบแทนก็จะเพิ่มมากขึ้น มาอยู่ที่ปีเดือน 15,000 บาท ภายใต้สมมุติฐานรัฐบาลสมทบสูงสุดไม่เกินปีละ 1,200 บาท.