จี้สรรพสามิตรื้อโครงสร้างภาษี จ่อเก็บจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
คลังสั่งสรรพสามิตเร่งปฏิรูปโครงสร้างภาษีทั้งระบบ โฟกัส! กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท วางมาตรฐานสูงกว่า “เบอร์ 5” ทั่วไป หวังยกระดับอุตสาหกรรมไทย อิง “เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน-ประหยัดพลังงาน-ส่งเสริมสุขภาพ-เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม” ด้าน “อาคม” ย้ำ! ไม่เร่ง แต่ต้องเตรียมความพร้อม ตั้งเป้ายกไทยขึ้นชั้น ศก.ผลิตรถ EV ขณะที่ “ลวรณ” เปรย ภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า มีทั้งปรับเพิ่ม-ลด-สร้างแรงจูงใจ!คาดทั้งปี้ เก็บภาษีตามเป้าที่ 6.3 แสนล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ ผู้บริหารกรมสรรพสามิต ว่า ได้ให้ไปศึกษาแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ทั้งระบบ ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรมภาษีอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย รวมถึงการประหยัดพลังงาน การดูแลสุขภาพ และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะ โครงสร้างภาษีใหม่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งระบบ จากเดิมที่อยู่ในข่ายจะต้องเสียภาษี แต่กรมสรรพสามิตไม่ได้จัดเก็บ ส่วนรายละเอียดจะเป็นเช่นใดคงต้องรอผลการศึกษาของคณะทำงานฯก่อน ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงการคลังไม่ได้เร่งรัดในเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ต้องการซ้ำเติมเศรษฐกิจและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพียงแต่เตรียมความพร้อมเมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
“เราอยากเห็นการยกระดับของอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศ ทั้งเรื่องการประหยัดพลังงาน การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมภาพของประชาชน รวมถึงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เนื่องจากทุกวันนี้ เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ทำให้ระดับการประหยัดพลังงานแบบเดิมคือ เบอร์ 5 อาจไม่เพียงพอจำเป็นจะต้องสร้างมาตรฐานใหม่ ซึ่งหากผู้ผลิตฯสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความประหยัดพลังงานได้ตามมาตรฐานใหม่ ก็ไม่ต้องเสียภาษีฯ” รมว.คลัง ย้ำ
พร้อมกับนี้ ยังให้ กรมสรรพสามิตศึกษาการจัดเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งที่เป็น EV 100% และเป็นลูกผสม (ไฮบริดจ์) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต EV ในประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ของภูมิภาค
สำหรับ ภาษีความหวานและความเค็ม ขณะนี้ กรมสรรพสามิตกำลังศึกษาถึงความเหมาะสม โดยจะทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมด้านสุขภาพของประชาชนให้ปลอดดจากโรคร้าย อาทิ โรคเบาหวาน และโรคไต ซึ่งพบมากในกลุ่มประชาชน
ด้าน นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า รมว.คลังได้มอบนโยบายให้กรมฯศึกษาแนวทางการ ปฏิรูปโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ทั้งระบบ โดยในส่วนของภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ นั้น ปัจจุบัน มีผู้ผลิตบางรายได้สร้างมาตรฐานใหม่ เป็นเบอร์ 5 ระดับ 1 ดาว, 2 ดาว และ 3 ดาว ซึ่งระดับ 3 ดาว ถือว่าประหยัดพลังงานสูงสุดในขณะนี้ และมีมากถึงร้อยละ 10 ของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานทั้งระบบ
ทั้งนี้ กรมฯคงต้องใช้เวลาศึกษาอย่างรอบคอบ เพราะไม่ใช่เรื่องด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ ส่วนแนวทางการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งระบบเข้าสู่การจัดเก็บภาษีฯ มีหลายทางเลือก ทั้งปรับเพิ่มและลดอัตราภาษีสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดและไม่ประหยัดพลังงาน ตามมาตรฐานใหม่ รวมถึง การสร้างแรงจูงใจอื่นๆ ให้ผู้ผลิตฯนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อยกระดับการผลิตมากขึ้น
ส่วน โครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ นั้น ขณะนี้ กรมฯได้ให้ทีมงานฯทำการศึกษาถึงความเหมาะสมและดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมากนัก
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้เดือน ต.ค.3564 นั้น นายลวรณ ย้ำว่า ยังคงเป็นไปตามประมาณการเอกสารงบประมาณฯ กล่าวคือ สามารถจัดเก็บรายได้มากกว่า 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปี กรมฯจะยังคงจัดเก็บรายได้ตามที่ได้รับมอบหมายเอาไว้คือ 630,000 ล้านบาท.