ครม.ปลื้ม! ผลบวก“ชิมช้อปใช้”เพียบ
“รองโฆษกกระทรวงการคลัง” นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ซึ่ง มีมติรับทราบผลการดำเนินมาตรการชิมช้อปใช้ ซึ่งดำเนินการในระหว่างวันที่ 27 กันยายน 2562 – 31 มกราคม 2563 โดยมาตรการดังกล่าว เป็นการให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน และมีบัตรประจำตัวประชาชน รวมจำนวนไม่เกิน 15 ล้านคน
ผู้ลงทะเบียนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ และติดตั้ง แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” มาตรการดังกล่าวมี ผู้ได้รับสิทธิ 14,354,159 คน มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 11,802,073 คน และมีร้านค้าที่มีผู้ไปใช้สิทธิจำนวน 103,053 ร้าน มียอดใช้จ่าย ผ่าน g-Wallet 28,819.9 ล้านบาท แบ่งเป็น การใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่องที่ 1(เงินสนับสนุนจากภาครัฐ 1,000 บาท) 11,671.8 ล้านบาท และ การใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่องที่ 2 (ประชาชนเติมเงินเพื่อใช้จ่ายและได้รับเงินชดเชยจากภาครัฐร้อยละ 15 หรือ 20 ของยอดใช้จ่ายจริง) 17,148.1 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการประเมินความคุ้มค่าของมาตรการชิมช้อปใช้ พบว่า มีการใช้สิทธิทั่วภูมิภาคและทุกจังหวัด โดย มาตรการชิมช้อปใช้มีผลบวกต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ผ่านตัวทวีคูณ (Multiplier) 3.3 เท่า ประเมินว่า ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 0.1 – 0.3 และ มีผลบวกต่อเศรษฐกิจรายจังหวัด สะท้อนได้จากการบริโภค การท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ในช่วงของการดำเนินมาตรการ
นอกจากนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงาน GDP ไตรมาส 4 ปี 2562 ไว้อย่างชัดเจนว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการขยายตัวสาขาการขายส่งขายปลีก โรงแรมที่พัก และร้านอาหารในด้านอุปทานเป็นผลมาจากมาตรการชิมช้อปใช้ และยอดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการมีมาตรการชิมช้อปใช้ ส่งผลให้มูลค่าการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งยังส่งผลให้เกิดประโยชน์ทางอ้อม คือ ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) สร้างทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) แก่ประชาชน สร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อใช้วิเคราะห์เชิงลึก และเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาช่วยในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ
“รองโฆษกกระทรวงการคลัง” กล่าวอีกว่า ในการสำรวจข้อมูลความพึงพอใจต่อมาตรการชิมช้อปใช้ ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 17 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ตอบแบบสอบถามแบ่งเป็นประชาชน 76,382 คน และผู้ประกอบการหรือร้านค้า “ถุงเงิน” 458 ร้านค้า สรุปได้ว่า ประชาชนมีความพึงพอใจ 3 ลำดับแรก ได้แก่ เงินสนับสนุน 1,000 บาท ร้อยละ 74.6 ความปลอดภัยในการใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ร้อยละ 74.2 และความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ร้อยละ 73.9
ส่วน ผู้ประกอบการ/ร้านค้า “ถุงเงิน” มีความพึงพอใจ 3 ลำดับแรก ได้แก่ ความปลอดภัยในการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้อยละ 86.6 ความสะดวกในการรับเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้อยละ 84.9 และขั้นตอนและรูปแบบการลงทะเบียน ร้อยละ 70.5.