สุริยะ ดัน 3 มาตรการ แก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้
ก.อุตสาหกรรม ผลักดัน 3 มาตรการ แก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ ส่งเสริมตัดอ้อยสดในฤดูการผลิตปี 2563/2564 ให้มีอ้อยไฟไหม้ไม่เกินร้อยละ 20
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ณ หอประชุมใหญ่สมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ว่า “จากนโยบายให้โรงงานรับอ้อยไฟไหม้ไม่เกินร้อยละ 50 ต่อวัน และการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตเฉพาะชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดในฤดูการผลิตปี 2562/2563 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณอ้อยไฟไหม้ในฤดูการผลิตปี 2562/2563 ลดลงโดยมีปริมาณอ้อยไฟไหม้ 37.18 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 49.65 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยสามารถลดพื้นที่การเผาอ้อยได้ถึง 1.2 ล้านไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อย สำหรับในฤดูการผลิตปี 2563/2564 ได้เตรียม 3 มาตรการในการส่งเสริมตัดอ้อยสด ดังนี้
1. ลดอ้อยไฟไหม้เหลือร้อยละ 20 ด้วยมาตรการส่งเสริมให้ราคาอ้อยสดสูงกว่าอ้อยไฟไหม้
2. สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้จัดหาเครื่องสางใบอ้อย ให้กับชาวไร่อ้อยสมาชิกกลุ่มเรียนรู้พัฒนาด้านอ้อยยืม จำนวน 112 เครื่อง โดยสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายภาคที่ 1 – 4
3. กรณีมีนโยบายการช่วยเหลือจากภาครัฐ จะช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเท่านั้น โดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายมีมติให้ความเห็นชอบหักเงินชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยไฟไหม้ในอัตราตันละ 30 บาท จ่ายคืนให้กับชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีทุกรายเต็มจำนวนโดยคิดแยกเป็นรายโรง และมีนโยบายที่จะผลักดันโครงการเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด ลดฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดมีรายได้รวมมากกว่าชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยไฟไหม้ เป็นการจูงใจให้ชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงาน พร้อมทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดกรอบวงเงินการช่วยเหลือต่อไป
สำหรับแนวโน้มราคาอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2563/2564 คาดการณ์ว่าเกษตรชาวไร่อ้อยจะได้ราคาอ้อยขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 800 บาท/ตันอ้อย ซึ่งคาดว่าราคาอ้อยในปี 2563/2564 มีราคาสูงกว่าฤดูการผลิตที่แล้วแน่นอน”
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้จัดทำระบบจดทะเบียนชาวไร่อ้อยแบบดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีความประสงค์จะจดทะเบียนชาวไร่อ้อยเพียงใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว ก็สามารถจดทะเบียนชาวไร่อ้อยได้ภายใน 10 นาที ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์พร้อมใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2565