สรุปข่าว 1-11-63
ส่องหุ้นไทย : บล.กสิกรไทยมองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (2-6 พ.ย.) คาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,185 และ 1,170 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,205 และ 1,215 จุดตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการเมือง และผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ.ในไทย ตลอดจนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผลการประชุมเฟดและความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเด็น BREXIT และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงหลุดระดับ 1,200 จุด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,194.95 จุด ลดลง 1.54% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,193.66 ล้านบาท ลดลง 15.90% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.34% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 309.56 จุด.
น้ำมันขยับลงอีก : ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ล่าสุด ปิดตลาดเมื่อ 1 พ.ย. พบว่า ราคาน้ำมับดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซื้อขายล่วงหน้า งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลดลงเล็กน้อย 0.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.11%) มาอยู่ที่ระดับ 35.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ม.ค.ปีหน้า ปิดตลาดลดลง 0.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.97%) ที่ระดับ 37.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล.
ทองขยับขึ้น : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ปิดตลาดเมื่อ 31 ต.ค. (ตรงกับเช้า 1 พ.ย.ของไทย) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนแรงมากถึง 11.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (0.60%) ปิดที่ 1,879.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นราคาเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 100 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อที่ 27,650 บาท ขาย 27,750 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้อที่ 27,151.56 บาท และขายที่ 28,250 บาท.
บาทสัปดาห์หน้า : แบงก์กสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้า (2-6 พ.ย.) ที่ระดับ
31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอังกฤษ
รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามดัชนี PMI เดือน ต.ค.ของจีน , ยุโรป และอังกฤษเช่นกัน
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.16 เทียบกับระดับ 31.27 บาทต่อดอลลาร์ฯ ของหนึ่งวันก่อนหน้านั้น.
ล็อคตัวรุ้ง : ศาล จ.อยุธยามีคำสั่งยกคำร้องฝากขัง 3 แกนนำม็อบนักศึกษา-คณะราษฎร 63ฯ “เพนกวิน – ไมค์ – รุ้ง” ที่เข้าพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.พระราม 9 ทว่า นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความแกนนำคณะราษฎร ระบุ ได้รับรายงานว่าพนง.สอบสวน สน.ปทุมวัน เตรียมจะขออายัดตัวรุ้ง ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนอีก 2 คน ไม่พบหมายจับของ สน.ปทุมวัน แต่อาจมีหมายจับอื่น ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ระบุ ทั้ง 3 คน ยังมีหมายอื่นที่ต้องอายัดตัว ไม่สามารถหยุดการดำเนินได้ คดีต้องสิ้นสุดที่ศาลเท่านั้น หลังจากนี้จะมีหมายอื่นตามมาอีก ตราบใดที่ยังทำความผิดเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 80 กว่าหมาย.
ป้องสถาบันฯ : กลุ่มไทยภักดี นำโดย น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และ น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ นักร้องชื่อดัง ได้จัดชุมนุมสมาชิกแนวร่วมเพื่อแสดงจุดยืนปกป้องสถาบัน และคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 บริเวณสวนลุมพินี เมื่อช่วงเย็น 31 ต.ค. โดยสมาชิกแนวร่วมจำนวนหนึ่งเข้าร่วมแสดงพลังในการปกป้องสถาบัน ค้านแก้รัฐธรรมนูญ 2560.
ไล่ ผกก.นนท์ : นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เดินทางมาปราศรัยโจมตีการทำงาน พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ที่ออกหมายจับตนและแกนนำคนอื่น คดี ม.116 ทั้งที่พวกตนมาชุมชุมกันอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ระบุ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องดำเนินการย้าย พ.ต.อ.สีหเดช ออกนอกพื้นโดยเร็ว หากยังไม่ย้ายจะยกระดับการชุมนุม และว่า ที่ตนมาที่หน้า สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อรำลึกถึง นายนวมทอง ไพรวัลย์ ลุงขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถถังบริเวนหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า ประท้วงการรัฐประหารปี 49 ต่อมาก่อนแขวนคอตัวเองจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ริม ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ.
ทะยอยทิ้งไทย : เพจ “สังคมโรงงาน” แพร่ภาพถ่ายการทำงานวันสุดท้ายของพนักงานชุดสุดท้าย จากที่เคยมีกว่า 800 คน ที่เข้ามาทำงานในโรงงานพานาโซนิค ในนิคมฯเวลโกร จ.ฉะเชิงเทรา ระบุ “ปิดตำนานพานาโซนิค นิคมเวลโกร รุ่นสุดท้ายตู้เย็น ย้ายฐานไปเวียดนาม โชคดีครับผม หดหู่ใจ ขับผ่านทุกวัน สู้ๆ” ทั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัท พานาโซนิค ประกาศปิดโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อไปรวมฐานการผลิตเข้าโรงงานที่ใหญ่ขึ้นในประเทเวียดนาม ด้วยเหตุผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และคงไม่ใช่แค่พานาโซนิค หรือเชฟโรแลตที่เลิกผลิตในไทยไปก่อนหน้านี้ แต่จะมีตามมาอีกเรื่อยๆ.
3 ซูเปอร์ช็อค : นี่ก็ทะยอยโละคนออก สำหรับแวดวงสื่อสารมวลชนไทย ก่อนหน้าหลายค่ายหนังสือพิมพ์ดังๆ ทั้งหัวสี หัวเศรษฐกิจ ทั้งรายวัน รายสามวัน ยันแมกกาซีน พากันปรับลดพนักงานเป็นทิวแถว จากสิ่งพิมพ์ลามไปทีวี แม้กระทั่งสื่อออนไลน์ ที่ต้นทุนน้อยแล้ว ยังโดนหางเลขไปกับเขาด้วย ก่อนหน้า ค่ายทีวีดังๆ ก็เปิดให้พนักงานเข้าโครงการเออรี่ไปบ้างแล้ว ล่าสุดที่ช็อคคนสื่อ คือ การที่ช่อง 3 ประกาศประกาศโละพนักงาน 300 คนในคราวเดียว ในจำนวนนั้นมีคนดังอย่าง กะละแมร์ และนีน่า รวมอยู่ด้วย กับเหตุผล “ลดรายจ่าย และความคล่องตัวทางธุรกิจ และคงไม่หยุดแค่นี้ ในยุครัฐบาลประยุทธ์.
หนักมาก : ฝนเทหนักมาก เมื่อช่วงบ่ายแก่ๆ ฉลอง 2 งานชนกัน “ลอยกระทง – ฮาโลวีน” ทำเอาคนกรุงเทพฯและปริมณฑล จมปลักอยู่กับ…สายน้ำนองล้นตลิ่ง ริมฟุตบาท ทั่วทุกหัวถนนทั้งกรุงฯ แม้ว่าก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยา จะพยากรณ์ประกาศให้ทราบกันมาแล้วว่า กรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ในวันดังกล่าว แต่เอาเข้าจริง “น้องฝน” เธอมาเต็มร้อย พร้อมกับ “พี่พายุ” จนท้องถนนและบ้านเรือนของผู้คน จมน้ำในบัดดล ดีที่งานนี้ กทม.เตรียมการมาดี ระบายน้ำออกไปได้รวดเร็ว ไม่เหลือ “น้ำรอระบาย” ให้ต้องคนกรุงฯต้องก่นด่ากันขรมเมืองเหมือนทุกครั้ง.
ทำน้ำจืดจากทะเล : พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ ปธ.อนุกก.บริหารจัดการน้ำในเขต EEC ภายใต้การกำกับของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะปธ.กนช. ร่วมประชุมกับคณะทำงานทางเทคนิคการพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลฯ ครั้งที่ 3/63 เพื่อพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคที่เหมาะสม และแนวทางจัดทำโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เพื่อสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำใน EEC รองรับตามนโยบายรัฐบาล.