คปภ.เร่งเยียวยาเหยื่อบึ้มท่อก๊าซที่ปากน้ำ
คปภ.บูรณาหน่วยงานเมืองปากน้ำ ตั้งศูนย์เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัยแก่เหยื่อท่อส่งก๊าซบึ้ม! หวังอำนวยความสะดวกเต็มที่ เผยทำประกันครบวงจรไว้กับ “ทิพยประกันภัย” วงเงินรวมกว่า 90 ล้านดอลลาร์ พร้อมเกาะติดเยียวยา “รถยนต์-จยย.-บ้าน-ทรัพย์อื่นๆ” ที่เสียหาย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวถึงเหตุระเบิดของท่อส่งก๊าซ บมจ. ปตท. จ.สมุทรปราการ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 50 ราย บ้านพักอาศัยของประชาชนเสียหาย 34 หลังคาเรือน รถยนต์ 62 คัน รถจักรยานยนต์ 59 คัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2563 ว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และ สำนักงาน คปภ. จ.สมุทรปราการ เร่งช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน
โดยลงพื้นที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.สมุทรปราการ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งติดตามและตรวจสอบข้อมูลด้วยว่า มีการทำประกันอัคคีภัย การประกันภัยรถยนต์ การประกันชีวิต หรือประกันภัยประเภทอื่นๆ ไว้หรือไม่ เพื่อใช้ระบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
จากรายงาน พบว่า บมจ. ปตท. ทำประกันภัยไว้กับ บมจ. ทิพยประกันภัย ประกอบด้วย กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 จำนวนเงินเอาประกันภัย 40,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดบุคคลภายนอก ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย การบาดเจ็บ และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมาย สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
และ กรมธรรม์ประกันภัยรับผิดตามกฎหมายอันเกิดจากการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการควบคุมก๊าซธรรมชาติ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2564 คุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 200,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริงไม่เกิน 200,000 บาทต่อคน ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ได้รับความเสียหายตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามประเภทกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยคุ้มครองรวมกันสูงสุดไม่เกิน 450,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยของผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 50 ราย รักษาตัวและกลับบ้านแล้ว 37 ราย รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล 13 ราย อยู่ระหว่างการติดตามผลคดีที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบข้อมูลการจัดทำประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุเพิ่มเติม ซึ่งหากพบว่าได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ได้จัดทำไว้ สำนักงาน คปภ.จะเร่งดำเนินการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อให้เป็นไปตามสัญญาประกันภัยโดยเร็วที่สุด
ส่วนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บ้านพักอาศัยและทรัพย์สินอื่นๆ ของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลความเสียหายจากเจ้าของทรัพย์สิน ผ่าน ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือด้านการประกันภัย อย่างไรก็ตาม รถที่ได้จัดทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1 หรือ ประเภท 2 (กรณีเสียหายจากไฟไหม้) หรือ ประเภท 2 พลัส (กรณีเสียหายจากไฟไหม้) ไว้ จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ซึ่งขณะนี้เจ้าของรถได้แจ้งข้อมูลความเสียหายของรถยนต์แล้ว 16 คัน มีประกันภัยรถภาคสมัครใจ จำนวน 5 คัน ไม่มีประกันภัยรถภาคสมัครใจ 11 คัน นอกจากนี้อยู่ระหว่างการติดตามและประสานงานกับเจ้าของทรัพย์สินโดยเร่งด่วน
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซระเบิดในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงฝากเตือนมายังประชาชนควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยควรทำประกันอัคคีภัย ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยอุบัติเหตุ ประกันชีวิต และประกันภัยอื่นๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยเข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. ระบุ.