สรุปข่าว 13-10-63
หุ้น ตปท.-ไทย
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (12 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 250.63 จุด (0.88 %) ปิดที่ 28,837.52 นิคเคอิ ลดลง 61.00 จุด (0.26%) ปิดที่ 23,558.69 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 296.31 จุด (2.56%) ปิดที่ 11,876.26 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 57.09 จุด (1.64%) ปิดที่ 3,534.22 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(12 ต.ค.) ที่ระดับ 1,273.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด (0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 46,573.18 ล้านบาท
น้ำมันโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทองคำขึ้น 50 บ.
ราคาทองคำเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 28,250 ขายออกบาทละ 28,350 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,742.80 ขายออกบาทละ 28,850 บาท ราคาทองคำปรับขึ้น 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 10 ต.ค.
ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเล็กน้อย
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (12 ต.ค.) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับวันที่ 9 ต.ค. โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 31.086 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 31.2634 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 40.9575 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอร์ริง, 37.1161 บาทต่อ 1 ยูโรดอลลาร์, 29.2528 บาท ต่อ 100 เยน, 4.0575 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 23.2463 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.6210 บาท ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
“อาคม” ทำงานวันแรก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เดินทางเข้ากระทรวงการคลัง เป็นวันแรก หลังรับตำแหน่งใหม่ ก่อนเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้นำรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน นายอาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง มาร่วมแถลงข่าว เพื่อเรียกความเชื่อมั่น
เลือกตั้ง อบจ.20 ธ.ค.
สำนักงาน กกต.เตรียมจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยในส่วนของการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะจัดขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 โดย กกต.จะประกาศวันเลือกตั้งในวันที่ 26 ต.ค.นี้ และเริ่มรับสมัคร 2-6 พ.ย. ทั้งนี้ เมื่อประกาศวันเลือกตั้ง สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที โดยจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
ม็อบนัดเคลื่อนเยือนทำเนียบฯ
แกนนำผู้ชุมชุมในนามคณะราษฎร ประกาศเชิญชวนประชาชนมาชุมในวันที่ 14 ต.ค. เวลา 14.00 น. รวมพลที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเคลื่อนขบวนล้อมทำเนียบขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่า เราจะทนอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์และเผด็จการศักดินาไปนานอีกเท่าไหร่กัน หรือจะต้องให้ความตกต่ำทางเศรษฐกิจมาเยือนแบบบางประเทศอันเนื่องมาจากการบริหารงานที่ล้มเหลว และกติกาที่บิดเบี้ยว รวมถึงการเอื้อพวกพ้องและศักดินา จึงจะตระหนักได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง
ครม.สัญจร
คณะรัฐมนตรี(ครม.) เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.สุราษฎรธานีและภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย.เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ รวมถึงลงพื้นที่เพื่อศึกษาเตรียมความพร้อมรองรับนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) และรูปแบบการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว (Long Stay) โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีกระจายการจองโรงแรมที่พักไปหลายๆ แห่ง
ช้อปดีมีคืน
ครม.เห็นชอบหลักการมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2563 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท
สถานการณ์โควิด
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยวันที่ 12 ต.ค.พบผู้ป่วยใหม่ 5 ราย ในสถานกักกันของรัฐ มีผู้ป่วยสะสมรวม 3,641 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสม 37,746,051 ราย เพิ่มขึ้น 278,013 ราย เสียชีวิตแล้ว 1,081,435 ราย เพิ่มขึ้น 3,874 ราย มีมากสุดคือที่สหรัฐ มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 7,991,998 ราย เพื่อขึ้น 41,935 ราย
พายุเข้า
กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) “นังกา” จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นในบริเวณด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือ ในระยะนี้