กยศ.ชวนลูกหนี้บริจาค “เลือด-ตา-ร่างกาย”
กยศ.ชวน “นร.-นศ.” บริจาคเลือดสะสม 7 ปี พุ่งกว่า 43 ล้านลิตร มอบให้สภากาชาด คาดยอดรวมปีหน้า ทะลุ 50 ล้านลิตรอย่างแน่นอน เผย! ชวนบริจาคเพิ่มอีก “ดวงตา-ร่างกาย-อวัยวะ” ด้าน ผอ.ศูนย์บริการโลหิตฯ ปลื้ม! หลังเซ็นเอ็มโอยู ตั้งหน่วยสนับสนุนจัดหาเลือด ย้ำ! เลือดทุกถุงช่วยได้ 3 ชีวิต
วันที่ 24 ก.ย.2563 กระทรวงการคลัง รศ.พญ. ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผจก. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเป็นหน่วยงานสนับสนุนจัดกิจกรรมบริจาคโลหิต เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืม ได้มีโอกาสทำความดีและช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบปริมาณโลหิต 43,565,900 ซีซี จากกิจกรรม “กยศ. รวมใจปันโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์”
นายชัยณรงค์ กล่าวว่า ทุกปี กยศ.รณรงค์เชิญชวนให้น้องๆ เข้าร่วมโครงบริจาคเลือดและได้ปริมาณเลือดราว 8 ล้านซีซี เพียงแต่ปีนี้ มีปัญหาไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดบริจาคเลือดลดลง ไม่ถึง 5 ล้านซีซี อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีหน้าปริมาณเลือดที่มีผ่านโครงการของ กยศ.จะอยู่ในระดับ 8 ล้านซีซี โดยการเร่งทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก อาจทำให้ปริมาณเลือดที่บริจาคในปีหน้าเพิ่มได้ถึง 9 ล้านซีซี ส่วนตัวมั่นใจว่า ยอดรวมการบริจาคเลือดผ่านกยศ.จะพุ่งเกินกว่า 50 ล้านซีซีในปีหน้าอย่างแน่นอน
“2 หน่วยงานได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเป็นหน่วยงานสนับสนุนจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อช่วยจัดหาโลหิตสำรอง ใช้ในภาวะปกติและภาวะโลหิตขาดแคลนให้กับโรงพยาบาลสาขา โรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมได้มีโอกาสทำความดี มีจิตสาธารณะและช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ชื่อกิจกรรม “กยศ. รวมใจปันโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์” โดยตลอด 7 ปีที่ผ่านมากองทุนได้รับความร่วมมือจากหน่วยรับบริจาคโลหิตทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงเครือข่ายสถานศึกษาทั่วประเทศ ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมการบริจาคโลหิต ส่งผลให้ได้รับปริมาณโลหิตสะสมทั้งสิ้น 43,565,900 ซีซี” นายชัยณรงค์ ระบุและว่า
ในปีงบประมาณ 2563 ได้จัดกิจกรรม “กยศ. รวมใจปันโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์” ปีที่ 7 โดยมีนักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมบริจาคโลหิต 19,032 คน จากสถานศึกษาทั่วประเทศมากกว่า 100 แห่ง ได้รับปริมาณโลหิต 4,764,800 ซีซี ซึ่งกองทุนได้มอบให้แก่สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลทั่วประเทศนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาพยาบาล หรือจัดเก็บสำรองไว้ใช้ในยามภาวะขาดแคลนต่อไป ทั้งนี้ การร่วมบริจาคโลหิตดังกล่าวสามารถนับเป็นชั่วโมงจิตสาธารณะสำหรับผู้กู้ยืม เพื่อนำไปสะสมจำนวนชั่วโมงจิตสาธารณะให้ครบตามที่กองทุนกำหนดในเงื่อนไขการกู้ยืม
นอกจากนี้ กยศ.ยังจะรณรงค์เชิญชวนให้นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืม ได้ร่วมกันบริจาคดวงตา ร่างกาย และอวัยวะ มอบให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยอีกด้วย
ด้าน รศ.พญ. ดุจใจ กล่าวเสริมว่า ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทุก 100 คนหรือ 100%จะต้องมีคนบริจาคเลือด 3-5 คน (%) โดยในไทยมีตัวเลขที่ค่อนข้างจะปริ่มน้ำ กล่าวคือ มีอัตราการบริจาคเลือดเพียง 3.1 คน (%) เท่านั้น โดยใน พื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ใกล้สถานพยาบาลและแหล่งข้อมูลข่าวสาร ทำให้มีสัดส่วนการบริจาคเลือดสูงถึง 13 คน (%) แต่การที่คนในต่างจังหวัดบริจาคเลือดกันน้อย ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการสำรองและกระจายเลือดไปยังพื้นที่ห่างไกลตามมา
โดยวามร่วมมือกับ กยศ.ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างหลักประกันการมีเลือดสำรองเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทุกๆ น้ำเลือดที่บริจาค 1 ถุง (ขนาด 350 – 400 ซีซี) ให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาตินั้น สามารถจะช่วยเหลือได้มากถึง 3 คน (ชีวิต) เนื่องจากเมื่อได้เลือดแล้ว ก็จะนำไป “ปั่นแยก” ออกเป็นเม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด และพลาสม่า ซึ่งแต่ละส่วน สามารถนำไปช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้.