คปภ.ดึงระบบประกันภัยรับต่างชาติเข้าไทย
คปภ. บูรณาการหน่วยงานภาครัฐ และธุรกิจประกันภัย คลอด “กรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19” ให้ ต่างชาติเข้าไทย หวั่งบริหารความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย และรองรับมาตรการ ศบค. คิดเบี้ยประกันตามความคุ้มครอง และเน้นขายทางออนไลน์ เผย! ต้องมีหนังสือและใบแพทย์รับรอง ย้ำ! ประกันฯมีผล ทันทีที่ถึงไทยและผ่าน ตม.แล้ว
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวถึงกรณีที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยต้องทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย ว่า เพื่อรองรับนโยบายภาครัฐดังกล่าว สำนักงาน คปภ. จึงได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กรมควบคุมโรค สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย เพื่อจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรองรับกลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ ตนในฐานะนายทะเบียนได้ลงนามในคำสั่งทะเบียน เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความ และอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยการดำเนินการขายจะกระทำผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Online) และเน้นให้ความคุ้มครองกลุ่มชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ถือหนังสือที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry) มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่า ผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate/ Fit to Travel Health Certificate) และมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางดังกล่าวไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ซึ่ง เริ่มต้นให้ความคุ้มครอง เมื่อผู้เอาประกันภัยเดินทางถึงประเทศไทยและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าของประเทศไทยแล้ว
สำหรับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. กรณีการเสียชีวิต ที่มีสาเหตุมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ความคุ้มครองกรณีผู้เอาประกันภัยที่เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์/ค่าทดแทน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพ และค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศ เท่ากับวงเงินเอาประกันภัย จำนวน 3,200,000 บาท
และ 2. การรักษาพยาบาลจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า ป่วยจากโรคติดเชื้อโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ต้องได้รับการรักษาพยาบาลและรักษาพยาบาลต่อเนื่อง ซึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลาที่คุ้มครองสำหรับการรักษาในโรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือคลินิก ไม่ว่าจะในฐานะผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก ซึ่งบริษัทจะจ่ายผลประโยชน์หรือค่าทดแทน สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมควร ตามความจำเป็นและมาตรฐานทางการแพทย์ ตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริง แต่ไม่เกินวงเงินเอาประกันภัย จำนวน 3,200,000 บาท
เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า ชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และมีคุณสมบัติตามที่กำหนด ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่ระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน ไปจนถึงสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และแบ่งตามความเสี่ยงของประเทศต้นทาง ได้แก่ ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ มีอัตราเบี้ยประกันภัยระหว่าง 1,600 – 14,400 บาท ประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง มีอัตราเบี้ยประกันภัยระหว่าง 2,560 – 23,040 บาท และประเทศที่มีความเสี่ยงสูง มีอัตราเบี้ยประกันภัยระหว่าง 4,800 – 43,200 บาท ทั้งนี้ อัตราเบี้ยประกันภัยดังกล่าวได้รวมอากรแสตมป์และภาษีแล้ว
ในส่วนของการรับประกันภัย เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันชีวิตในรูปแบบ Co-Insurance 16 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.ทิพยประกันภัย บมจ.กรุงเทพประกันภัย บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย บมจ.นวกิจประกันภัย บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ บมจ.แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ บมจ.ฟอลคอนประกันภัย บมจ.มิตรแท้ประกันภัย บมจ.เมืองไทยประกันภัย บมจ.วิริยะประกันภัย บมจ.สินมั่นคงประกันภัย บมจ.อาคเนย์ประกันภัย บมจ.เอเชียประกันภัย 1950 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และ บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต
“การพัฒนารูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยง เพื่อรองรับนโยบายภาครัฐ ภายใต้มาตรการผ่อนปรนแต่ละระยะ โดยดำรงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน” เลขาธิการ คปภ. ย้ำสรุป.