ออมสินอุ้มท่องเที่ยว เร่งปล่อยกู้ฯ 1.5 หมื่นล.
แบงก์ออมสิน ขานรับมติ ครม. เร่งเดินหน้าขยายผลช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตั้งเป้าช่วยเอกชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ซอฟต์โลน 1.5 หมื่นล้านบาท “วิทัย รัตนากร” ย้ำ! พร้อมปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายใหญ่จนถึงธุรกิจ SMEs หลังวิกฤติCovid-19 สร้างผลกระทบต่อเนื่อง
2 ใน 4 เครื่องยนต์หลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีปัญหาหนักมากเข้าขั้นรุนแรง เพราะทั้งภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ล้วนสัมพันธ์กับเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เมื่อโลกต้องเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลหลายประเทศประกาศ“ชัตดาวน์” ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาพรวมเศรษฐกิจไปทั่วโลก การเดินทางข้ามเมือง/ข้ามประเทศ กลายเป็นเรื่องต้องห้าม และนั่น…ทำให้ภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ มีปัญหาขั้นวิกฤตกันเลย
ล่าสุด หลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2563 เห็นชอบการปรับปรุงแนวทางโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากวิกฤติการแพร่ระบาด Covid-19 ตามที่ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการ และให้ธนาคารออมสินเร่งดำเนินการ ปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟต์โลน (Soft Loan) วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท เน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 10,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในภาคการท่องเที่ยว วงเงิน 5,000 ล้านบาทนั้น
นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน ระบุว่า ทั้ง 2 โครงการได้มีการขยายขอบเขตคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ได้รับอนุมัติสินเชื่ออีกด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้มากขึ้น ทั้งนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือ Supply Chain ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากวิกฤติการแพร่ระบาท Covid-19 วงเงินกู้สูงสุดรายละ 20 ล้านบาท โดย ธนาคารฯปล่อยสินเชื่อให้กับสถาบันการเงินทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของรัฐ ในอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เพื่อที่สถาบันการเงินนั้นจะนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการ ในอัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ช่วงกลางเดือน ก.ย. 2563 นี้
ด้าน โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในภาคการท่องเที่ยว วงเงิน 5,000 ล้านบาท เน้นให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก/ขนาดย่อม ของภาคการผลิต การบริการ การพาณิชย์ และ Supply Chain ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ เช่น ร้านอาหาร สปา นวดแผนไทย รถรับจ้างนำเที่ยว บริการที่พัก เกสต์เฮาส์ โฮสเทล เป็นต้น เพื่อให้ธุรกิจได้ใช้วงเงินสินเชื่อเป็นทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง โดยผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ให้วงเงินสูงสุดรายละไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปีตลอดอายุสัญญา (5 ปี) ใช้บุคคลค้ำประกัน และปลอดชำระเงินต้น 1 ปี โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ก่อนที่ SMEs Call Center โทร. 02-299-8899
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และกระทบภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทบทั้งหมด รวมถึงธุรกิจต่อเนื่อง ธนาคารออมสินจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยโครงการเงินกู้ซอฟต์โลนที่รัฐบาลต้องการให้ธนาคารออมสินช่วยเหลือผ่านมาตรการดังกล่าวนี้ จะเป็นการบรรเทาผลกระทบและช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่เดือดร้อนลงได้ไม่มากก็น้อย เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีความคล่องตัวจนกลับสู่สถานะปกติได้ต่อไป” ผอ.แบงก์ออมสิน ย้ำสรุป.