คนแก่แห่สังเกตุการณ์สร้างบ้านพักผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุ แห่ตบเท้าร่วมสังเกตการณ์ “เซ็นเอ็มโอยู” สร้าง “ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” ย่านบางปลา สมุทรปราการ หวังเป็นส่วนหนึ่งใน 900 ยูนิตแรก ที่อยู่ใกล้สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ด้าน “สันติ พร้อมพัฒน์” สั่งธนารักษ์เร่งสำรวจที่ราชพัสดุ เดินหน้าสร้าง “ซีเนียร์ คอมเพล็กซ์ – บ้านพักข้าราชการพลเรือน” เพิ่มในหัวเมืองใหญ่ ขณะที่ “ยุทธนา หยิมการุณ” เผย! ใช้เฟสแรก 1.1 พันยูนิต นำร่องก่อนสยายปีกสร้างบ้านพักฯเฟสต่อไป

คลื่นมหาชนคนสูงอายุ! ดาหน้ามุ่งสู่กรมธนารักษ์ ที่ได้จัด พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ โครงการ “ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” เนื้อที่ 20 ไร่ บริเวณ อ.บางปลา จ.สมุทรปราการ รวมถึง โครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์” พื้นที่ 31 ไร่เศษ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โครงการ “บูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ” และ โครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์”พื้นที่ 42 ไร่ 2 งาน บริเวณ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ส.ค.2563
ไฮไลท์จริงๆ ของงานนี้…อยู่ที่ โครงการ “ซีเนียฺร์ คอมเพล็กซ์” หรือ “ศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร” นั่นเพราะ…ผู้สูงอายุที่บุตรหลานพามาร่วมสังเกตการณ์กันเป็นจำนวนมาก ต่างก็ต้องการทราบความชัดเจนในโครงการที่จะผูกรวมสถานพยาบาลชั้นแนวหน้าของประเทศ (สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล) ซึ่งจะเป็นอนาคตของโรงพยาบาลยุคใหม่ ภายใต้การบริหารจัดการของคณะแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี เข้าไว้ในโครงการดังกล่าว

ด้วยจำนวนห้องพักอาศัยที่มีเพียง 921ยูนิต กับขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 31 – 49 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.9 ล้านบาท ทำให้ผู้สูงอายุและลูกหลานของพวกเขา ต้องการสร้างความมั่นใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการในเฟสแรกนี้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามฯ ระหว่าง กรมธนารักษ์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด โดยย้ำว่า โครงการ “ซีเนียฺร์ คอมเพล็กซ์” เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ห่วงใยและต้องการตอบแทนผู้ที่เกษียณอายุการทำงาน เพราะถือเป็นผู้ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองมาก่อนหน้านี้ โดยจะ ขายในลักษณะ “เช่าซื้อ” ผู้ทำสัญญาสามารถครอบครองห้องพักหรือบ้านพักได้นานถึง 30 ปี เมื่อครบกำหนดสัญญา ก็สามารถต่ออายุสัญญาการเช่าซื้อต่อไปได้ กรณีเสียชีวิตสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกหลานได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ตนในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์ ได้สั่งการให้เร่งสำรวจที่ดินราชพัสดุที่มีศักยภาพ จากทั้งหมดที่มีกว่า 12.5 ล้านไร่ทั่วประเทศ เพื่อนำไปจัดสร้างโครงการ “ซีเนียฺร์ คอมเพล็กซ์” และโครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์” ให้กับข้าราชการพลเรือนทั่วไป โดยใช้ทั้ง 4 โครงการข้างต้นเป็นโครงการนำร่อง เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ก่อน จากนั้น ค่อยกระจายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ
“โครงการในเฟสแรกนี้ กรมธนารักษ์จะเปิดจองพร้อมกันในวันที่ 14 ส.ค.2563 เป็นต้นไป โดยสามารถ จองผ่านเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ หรือเดินทางไปจองได้ที่สำนักงานขายในบริเวณที่ตั้งของโครงการนั้นๆ ได้เลย” รมช.คลัง ระบุ
ด้าน นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ทั้ง 4 โครงการนี้ถือเป็นการนำร่องของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้ผู้สูงอายุและข้าราชการพลเรือนได้มีที่พักอาศัยในช่วงบันปลายชีวิต โดยหลังจากนี้ กรมธนารักษ์จะเร่งทำการสำรวจที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพ อยู่ใกล้เมือง ใกล้โรงพยาบาล และใกล้แหล่งสาธารณูปโภคที่สำคัญ เพื่อดำเนินการโครงการที่พักอาศัย ทั้งในกลุ่ม “ซีเนียฺร์ คอมเพล็กซ์” และ “บ้านสวัสดิการแก่ข้าราชการพลเรือน” เบื้องต้น จะเริ่มที่พื้นที่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

สำหรับ โครงการ “ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” เป็นความร่วมมือระหว่าง กรมธนารักษ์กับคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเฟสแรกจะดำเนินการก่อสร้างบนเนื้อที่ 20 ไร่ และมีแผนจะขยายในเฟส 2 อีก 50 ไร่ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะถูกใช้เป็นต้นแบบให้กับโครงการในจังหวัดต่างๆ นำไปประยุกต์ให้เหมาะสมต่อไป ส่วน โครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์” บนที่ราชพัสดุ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 31 ไร่เศษ ถือเป็นการจัดสวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้กับข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างขวัญและกำลังใจตามจำเป็นพื้นที่ฐาน
ขณะที่ โครงการ “บูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ” ที่ กรมธนารักษ์ ร่วมกับ สำนักงาน ก.พ.นั้น เป็นไปเพื่อจัดมอบสวัสดิการและเสริมสร้างคุณภาพงาน คุณภาพชีวิตให้แก่ข้าราชการพลเรือน โดยบูรณาการเรื่องของสถานที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน และศูนย์บริการประชาชน ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยนำที่ราชพัสดุ มาดำเนินโครงการฯ นอกจากนี้ ยังได้เปิดจอง โครงการบ้านสวัสดิการในพื้นที่ จ.ชลบุรี เนื้อที่ 42 ไร่ 2 งานเศษ เพื่อเป็นสวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้กับข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐ

“ทั้ง 4 โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุนี้ กรมธนารักษ์ได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ผ่านโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้ง ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เจ้าหน้าที่และบุคลากรของรัฐบาล” นายยุทธนา กล่าว
มี รายงานข่าวจากกรมธนารักษ์ ระบุถึง งบประมาณในการก่อสร้างโครงการนำร่อง ทั้ง 3 แห่งนี้ โดยยังไม่นับรวมโครงการที่จะทำร่วมกับสำนักงาน ก.พ. เนื่องจากยังต้องรอความชัดเจนในรายละเอียดและที่ตั้งของโครงการเสียก่อน ว่า เบื้องต้นใช้งบประมาณในการก่อสร้างราว 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น…โครงการ “ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” เฟสแรก 1,000 ล้านบาท จำนวนห้องพัก 921 ยูนิต พื้นที่ 31-451 ตร.ม. กำหนดราคาขาย 1.9 – 2.8 ล้านบาท ที่เหลือ 500 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างในโครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์” แบ่งเป็น จ.นครราชสีมา 84 ยูนิต (หลัง) ราคาขายตั้งแต่ 1.3 – 1.9 ล้านบาท และ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำมาก่อนหน้านี้แล้ว จำหน่ายไปแล้ว 80 ยูนิต (หลัง) ยังเหลืออีก 100 ยูนิต (หลัง) ราคาขายตั้งแต่ 1.84 – 2.66 ล้านบาท โดยทั้งหมด มอบหมายให้ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้าง ทั้งนี้ หากสามารถขายหมดทุกยูนิต จะมีรายได้กลับคืนมาไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท.