สรุปข่าว 14-8-63
น้ำมันขึ้น ปตท. และ บางจาก ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 15 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 63 ส่วนราคาดีเซลราคาคงเดิม สำหรับราคาใหม่มีดังนี้ ดีเซล อยู่ที่ 22.29 บาท/ลิตร, ดีเซล B20 อยู่ที่ 19.04 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 21.95 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 21.68 บาท/ลิตร, E20 อยู่ที่ 20.44 บาท/ลิตร, E85 อยู่ที่ 18.19 บาท/ลิตร, เบนซิน อยู่ที่ 29.36บาท/ลิตร
หุ้น ตปท.-ไทย ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (13 ส.ค.) ลดลง 80.12 จุด (0.29 %) ปิดที่ 27,896.72 จุด นิคเคอิ เพิ่มขึ้น 405.65 จุด (1.78%) ปิดที่ 23,249.961 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 30.27 จุด (0.27 %) ปิดที่ 11,042.50 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.92 จุด (0.20 %) ปิดที่ 3,373.43 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(13 ส.ค.) ที่ระดับ 1,346.69 จุด เพิ่มขึ้น 9.85 จุด (0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 77,821.76 ล้านบาท
ทองคำลง 50 บ. สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศประจำวันที่ 13 ส.ค. 63 ปรับลดลงมา 50 บาท โดยสมาคมค้าทองคำได้ประกาศ ให้ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 28,500 บาท ขายออกบาทละ 28,350 บาท ส่วนรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 27,742.80 บาท และ ขายออกบาทละ 28,850 บาท
ค่าเงินบาท สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับวันที่ 11 ส.ค. โดย(13 ส.ค.)ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 31.047 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 31.2259 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 41.0138 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอร์ริง, 37.0419 บาทต่อ 1 ยูโรดอลลาร์, 29.4990 บาท ต่อ 100 เยน, 4.0543 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 22.9395 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.5182 บาท ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
ถ่ายภาพหมู่ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำ ครม.ชุดใหม่ ถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะมีการประชุม ครม.นัดแรก ภายหลังการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ ถือเป็นการนับ 1 เริ่มต้นการทำงานของคณะทำงานใหม่รัฐบาล โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ครม.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ตั้ง ศบค.เศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ ออกคำสั่งตั้ง“ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ” เป็นประธานเอง โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจร่วมเป็นกรรมการ เพื่อจัดทำข้อเสนอและกรอบแนวทางการดำเนินมาตรการเศรษฐกิจทั้งระยะเร่งด่วน พร้อมยังตั้งนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นประธานขับเคลื่อนมาตรการ ใน ศบค.เศรษฐกิจ
ตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ยังตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีทุกคนเป็นกรรมการ โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ มีหน้าที่ ติดตาม รับฟัง และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนในจังหวัด และจัดให้มีการตอบสนองความต้องการของประชาชนในจังหวัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม
รมว.ป้ายแดง จ่อเรียกมหาลัยถกม็อบ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาหลายสถาบัน ว่า 14 ส.ค.จะมีการเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง 2-3 แห่ง มาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า หลักการโดยรวมนั้น อยากให้มีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอยู่แล้ว และไม่อยากให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม รัฐบาลเปิดกว้างในเรื่องสิทธิ เสรีภาพในการชุมนุม แต่ขอให้เนื้อหาอยู่กรอบของกฎหมาย ไม่ก้าวล่วงสิ่งที่ละเอียดอ่อน เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
สภาธรรมศาสตร์ประกาศจุดยืน สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประชุมและประกาศจุดยืน กรณีม็อบนักศึกษาเมื่อวันที่ 10 ส.ค.1.ยืนยันจุดยืนสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.ยอมรับในสิทธิเสรีภาพและการแสดงออกของนักศึกษาภายใต้ขอบเขตแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย 3.คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอรับไปดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างรอบด้านเพื่อชี้แจงให้สังคมได้ทราบต่อไป 4.จะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในมหาวิทยาลัย โดยเชื่อในแนวทางการปรึกษาหารือกันแบบสันติวิธี
ครม.เคาะหยุดยาว 4 วัน ที่ประชุม ครม.วันที่ 13 ส.ค. มีมติเห็นชอบ กำหนดวันหยุดราชการ เดือน ก.ย.2563 เพิ่ม 2 วัน ได้แก่ วันศุกร์ที่ 4 ก.ย. และวันจันทร์ที่ 7 ก.ย. ในโอกาสชดเชยวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ปี 2563 ส่งผลให้มีวันหยุดรวม 4 วันคือวันที่ 4-7 ก.ย. 2563 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ตีกลับต่อสัญญาฯ BTS สายสีเขียว ที่ประชุม ครม.มีการถอนเรื่องผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ออกไปก่อน เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง 6 คน ได้พิจารณารายละเอียดและให้จัดวาระเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้ง