โรงแรมลักชัวรี่ในภูเก็ตลุ้นท่องเที่ยวฟื้นตัว
โรงแรมระดับลักชัวรี่และอัปสเกลในภูเก็ต ยังคงต้องรอการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว ขณะที่พิษจากเชื้อร้ายโควิด-19 ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลงต่อเนื่อง โรงแรมกว่า 2,400 ห้อง เลื่อนเปิด
มร.คาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินมูลค่าทรัพย์สินและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก เรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน(เทรดวอร์) และเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลง โดยในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2563 ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศมีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมาตรการด้านการเดินทางภายในประเทศและทั่วโลก ที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการเข้าพักในโรงแรมลดลงตามด้วยเช่นกัน สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเกาะภูเก็ต เพราะธุรกิจการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) ทั้งหมดในภูเก็ต
โดยปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงไปใน 3 เดือนแรกของปี 63 ถึง 33.8% อยู่ที่ 1.06 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ตลาดกลุ่มใหญ่ที่สุดมีปริมาณลดลง เนื่องจากรัฐบาลจีนกำหนดข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวนอกประเทศในเดือนมกราคม ปี 2563 ที่ผ่านมา สภาวะตลาดซบเซาทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมบางรายจำต้องหยุดดำเนินธุรกิจ โรงแรมบางแห่งเสนอส่วนลดราคาห้องพัก จัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายและแพกเกจต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าภายในประเทศ
จากผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่า หาดป่าตอง มีโรงแรมระดับลักชัวรี่และอัปสเกล สัดส่วนมากที่สุดถึง 24% ของอุปทานรวมทั้งหมด โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีโรงแรมระดับอัปสเกลใหม่ ที่เปิดให้บริการในภูเก็ตเพียงแห่งเดียว คือ โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท จำนวน 600 ห้อง ทำให้จำนวนห้องพักโรงแรมระดับลักชัวรี และอัปสเกลในภูเก็ตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 22,461 ห้อง ณ ครึ่งแรกของปีนี้ การลดลงของนักท่องเที่ยว ทำให้ช่วงสิ้นปี 2562 อัตราการเข้าพักของโรงแรมลักชัวรี่และอัปสเกลลดลงไป 22% ราคาเฉลี่ยที่พักรายวัน (ADR) ลดลงไป 6% ปีต่อปี อยู่ที่ 3,840 บาท ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ในปี 2563 มี 11 โรงแรม กำหนดเปิดให้บริการ จำนวนห้องพักรวมประมาณ 2,431 ห้อง อาจต้องเลื่อนการเปิดบริการออกไป เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน อาทิเช่น โรงแรมอังสนา โอเชี่ยน วิว (116 ห้อง) โรงแรมไอสแลนด์ เอสเคป บาย บุราส่าหรี เฟส 2 (220 ห้อง) และ รามาดา พลาซ่า แกรนด์ หิมาลัย รีสอร์ท (426 ห้อง) เป็นต้น
การปิดสนามบินนานาชาติภูเก็ตในวันที่ 3 เมษายนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวลดลง อย่างไรก็ตาม การที่สนามบินเปิดรับเที่ยวบินภายในประเทศในวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา เราคาดว่าจะเห็นการท่องเที่ยวภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 และหากมาตรการด้านการเดินทางต่างๆ ทั่วโลกถูกยกเลิก การท่องเที่ยวระหว่างประเทศอาจฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสที่ 4 หรืออาจเป็นช่วงต้นปี 2564.
