สรุปข่าว 2-8-63
จับตาหุ้นโลก : แม้ปิดตลาดสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นสำคัญของโลก จะปิดบวกทั่วหน้ากัน กระนั้น ตลอดรอบสัปดาห์ที่ผ่าน ดัชนีเฉลี่ยของดาวโจนส์ ลดลง 0.15%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.73% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.69% ส่วนในรอบเดือน ก.ค. ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2.39%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 5.52% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.83%
ทั้งนี้ เพราะแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นชั้นนำในกลุ่มเทคโนโลยี หลังบริษัทเหล่านี้เปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2/2563 ที่สูงเกินคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการเยียวยาผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่เพิ่งสิ้นสุดไป และทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังไม่เจรจาตกลงเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวได้
หุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ : ส่วนตลาดหุ้นไทย นักวิเคราะห์คาดการณ์สัปดาห์หน้า (3-7 ส.ค.) อาจจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,330-1,340 จุด ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามหุ้นในกลุ่มนอนแบงค์ หลังธนาคารออมสิน ส่งสัญญาณจะเริ่มลงไปให้บริการในตลาดสินเชื่อนี้ และตั้งเป้าหมายจะกดอัตราดอกเบี้ยให้ลดลงราว 8-10% ภายใน 6 เดือน อาจเป็นความรู้สึกเชิงลบกดดันหุ้นในกลุ่มนอนแบงค์ได้อีกครั้ง รวมทั้งต้องติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ทั้งนี้ คาดจะเริ่มเห็นหุ้นในกลุ่ม พลังงาน-ปิโตรเคมี ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี63 ซึ่งน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ หลังไม่มีขาดทุนสต็อกน้ำมันเหมือนไตรมาสก่อนหน้านี้.
ลุ้นค่าเงินกันต่อ : ปลายสัปดาห์ก่อน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากดอลลาร์ร่วงลงในเดือน ก.ค.รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 5.5% ขณะที่ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.16 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่เฉลี่ย 31.8621 บาท/เหรียญสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค. เงินบาทอยู่ที่ 31.220 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย.
น้ำมันทรงตัว : นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผอ.สนพ. คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัว โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันในหลายประเทศที่กำลังฟื้นตัว การที่สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก จากผลกระทบของไวรัสโควิด–19 ตลอดจนสัญญาณที่ดีจากผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ส่งผลบวกให้กับตลาดน้ำมันอย่างไรก็ดี ตลาดยังคงกังวลต่อตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ อินเดีย ภูมิภาคอเมริกาใต้ ที่ยังคงสูงขึ้น ทำให้อุปสงค์น้ำมันโลกยังคงถูกจำกัด นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง.
ทองไทยขึ้นอีก : นักวิเคราะห์ประเมินราคาทองคำในตลาดโลก ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในยามไวรัสโควิดฯยังคงแพร่ระบาดในหลายประเทศใหญ่ ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ทองคำยังคงเป็นที่ต้องการของนักลงทุนทั่วโลก ด้านราคาทองคำในไทยวานนี้ (1 ส.ค.) สมาคมค้าทองคำประกาศปรับราคาตลอดวันเพียงครั้งเดียว ราคาปิดสุดท้ายเพิ่มขึ้น 50 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อที่บาทละ 29,000 บาท ขาย29,100 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อที่ 28,470.48 บาท และขาย 29,600 บาท.
คือทางออกประเทศ: คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ขอให้รัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 เพื่อหาทางออกให้ลดความขัดแย้งที่กำลังขยายตัวก่อนที่จะสายเกินแก้ และทำเป็น “สัญญาประชาคม” ในการร่วมกันพัฒนาประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา โดยรัฐบาลและ ครม.ชุดใหม่ ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเรื่องคงค้างเก่าให้แล้วเสร็จ ก่อนการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เดินหน้าประเทศไทยและปลดล็อคการสืบทอดอำนาจ โดยให้พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว. ร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย เปิดทางร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกลไก ส.ส.ร.ในอนาคต.
แก้ก่อนเลือกตั้ง : นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย รอง ปธ.วิปฝ่ายค้าน ระบุ วิปฝ่ายค้านมีมติหนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เปิดทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้น แต่ควรแก้ไขก่อนจะมีการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากแก้ไขชหลังการเลือกตั้งไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพ และให้นักการเมืองทั้งสภาร่วมมือกันจึงจะแก้ได้ ทั้งนี้ดูจากข้อเรียกร้องของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ก็จะทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาแน่นอน โดยสัปดาห์หน้าจะยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร.
จัดหนักทหารเลว: พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ. รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ แม่ทัพภาคที่ 2 และนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา ได้รับรู้ว่าการที่ ส.ท.ธนากร ไกรศิริ ได้โพสต์เชิญชวนสมาชิกเพื่อนฝูงเข้าร่วมเพจ “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” เพื่อให้ “ตาสว่าง” ถือเป็นกรณีร้ายแรงสำหรับการเป็นทหาร จัดเป็นทหารเลวที่ไม่สมควรให้โอกาสดำรงสถานะข้าราชการทหาร เพราะทหารต้องเป็นแบบอย่างในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะนำเอาความรู้สึกเห็นใจหรือให้โอกาสในเรื่องนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด.
ยังหวังอยู่ : แม้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยืนยันจะลงสมัครชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ ทว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ยังคงยืนยันจะส่งเทียบเชิญให้มาลงสมัครในนามของพรรคฯ เพราะเป็นนายชัชชาติเป็นเพื่อน เป็นสมาชิกพรรค และเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข ระบุ คิดไม่ออกถึงเหตุผลที่คุณชัชชาติปฏิเสธที่จะลงสมัครในนามพรรค ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ได้รับโอกาสจากพรรคฯได้ทำหน้าที่ รมว.คมนาคม ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์.
ปชป.สอบบ้าง : นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. ระบุการเก็บข้อมูลทั้งหมดในคดี “บอส อยู่วิทยา” ที่ผ่านมา มีหลายประเด็นที่สังคมยังเคลือบแคลงสงสัย จำเป็นจะต้องขอตรวจสอบและขอดูคำวินิจฉัยรายละเอียดการพิจารณาสั่งคดีทั้งหมดจากอัยการสูงสุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ เพราะข้อมูลที่เป็นทางการจะเป็นความจริงตั้งต้นว่า มีส่วนไหนที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม และมีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ดุลพินิจในการพิจารณาสั่งคดีมีเหตุผลใด ฯลฯ สิ่งสำคัญต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่การตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสได้.
มท.รับทำงาน : แฟนเพจเฟซบุ๊ก มท. PR โพสต์ข้อความระบุว่า กระทรวงมหาดไทย รับสมัครงานอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นและเก็บข้อมูลพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ 30,058 อัตรา แบ่งเป็น 1.อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น 15,548 อัตรา โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อปท. ค่าตอบแทน 5,000 บาท/เดือน (อปท.แห่งละ 2 อัตรา) เปิดรับสมัคร ถึง และ 2.จ้างเหมาบริการจัดเก็บข้อมูลพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ 14,510 อัตรา โดยกรมการปกครอง โดยมีคุณสมบัติเดียวกัน ค่าตอบแทน 15,000 บาท/เดือน ตำบลละ 2 อัตรา รับสมัครภายใน ก.ย.นี้.
เพิ่มขนาดเสี่ยงมะเร็ง : นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เตือนกลุ่มวัยรุ่นชายที่คิดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศด้วยการฉีดสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ว่า แต่ละปีมีวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลจำนวนมาก ด้าน นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ. รพ.ราชวิถี ระบุ การฉีดสารแปลกปลอมต่างๆ เพื่อให้อวัยวะเพศมีรูปร่างคล้ายมะระหรือลูกยอ เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง เพราะการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งในระยะยาวจะทำให้อวัยวะเพศมีก้อนแข็งผิดรูป มีความลำบากหรือมีความเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ อาจมีแผลเรื้อรัง และกลายเป็นมะเร็งได้.