ก.อุตฯ เพิ่มมูลค่า กัญชงไทย บุก ตลาดโลก
หลังจากการประชุม เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชง สู่ การผลิตในระบบอุตสาหกรรม ร่วมกับ อนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชา กัญชง และกระท่อมอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ประธาน อนุกรรมาธิการฯ
นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ที่ปรึกษารมว.อุตสาหกรรม บอกถึง ความนิยมผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยกัญชง ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค ภาพรวมของตลาดโลกในอุตสาหกรรมกัญชง มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2019 มูลค่าการตลาดอยู่ที่ 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือ ราว 1.4 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2025 มูลค่าการตลาดจะมีโอกาสเติบโตถึง 2.66 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 8.06 แสนล้านบาท ถือเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 34 เฉลี่ยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทยในการเข้าถึงส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมาย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผ่านการดำเนินการของ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ วิจัยกระบวนการผลิตเส้นใยที่มีคุณภาพ ลดการนำเข้า รวมทั้งขยายผลในเชิงพาณิชย์ เพื่อนำเสนอต่อ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชงอย่างเป็นระบบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชา กัญชง และกระท่อมอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รวบรวมข้อมูลการใช้ประโยชน์และแนวทางการพัฒนาเส้นใยกัญชง นำเสนอคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชงอย่างเป็นระบบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชา กัญชง และกระท่อมอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นข้อมูลในมิติของอุตสาหกรรมสำหรับประกอบการพิจารณาของคณะกรรมมาธิการวิสามัญฯ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้กำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนา ผ่านรวบรวมข้อมูลคุณสมบัติพิเศษของกัญชงแต่ละสายพันธุ์ รวมทั้งศึกษาความแตกต่างของการปลูกในแต่ละพื้นที่ เพื่อพัฒนาให้เป็นเส้นใยกัญชงไทย
นอกจากนี้จะผลักดันและส่งเสริมพืชกัญชงในภาคอุตสาหกรรม ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเครื่องจักรและเครื่องมือ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพิ่มขีดความสามารถที่จะแข่งขันในตลาดของอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
โดยองค์ความรู้เทคโนโลยีในการผลิตและการแปรรูป การส่งเสริมด้านการตลาด รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างความเชื่อมั่นและช่วยสนับสนุนเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการผ่านการจัดทำมาตรฐานเส้นใยกัญชงที่มีคุณภาพ เพื่อการยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคจากนานาชาติต่อไป
ด้าน รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ และอาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า การขับเคลื่อนให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ นั้น จะต้องพิจารณา 3 เรื่องหลัก คือ 1.ทิศทางความต้องการของตลาดโลก เพื่อนำไปสู่การผลิตเพื่อการส่งออก
2.เทคโนโลยี ในการพัฒนาห่วงโซ่ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่ต้องพัฒนาปรับปรุงให้ได้มาตรฐานสากล อาทิ มาตรฐานการสกัดสาร THC และ CBD เป็นต้น
3 ภูมิปัญญาที่เป็นจุดแข็งของไทยมีเรื่องราวที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเรื่องหลักเหล่านี้จะต้องมีชัดเจน เพื่อนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การนำกัญชงมาเป็นยา เป็น อาหาร โดยเฉพาะอาหารเสริม เพื่อนำไปสู่ตลาดโลก นั้น อย.จะต้องมีความชัดเจนในการกำหนดมาตรฐาน ปริมาณการนำสารสกัดที่ได้มาผสม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ในระดับสากลด้วยเช่นกัน