MJDเร่งระบายสต๊อกครึ่งปีหลังกว่าหมื่นล้าน
“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์”ปรับแผนธุรกิจรับมือผลกระทบโควิด-19ในครึ่งปีหลัง เร่งระบายสต๊อกรอขายในพอร์ตกว่า 10,000 ล้านบาท รักษาสภาพคล่อง เลื่อนเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า 20,000ล้านบาท ล่าสุด เปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับซุปเปอร์ลักชัวรี มูลค่ารวม1,150ล้านบาท
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ (MJD) เปิดเผยว่า ผลการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวลง และจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องทบทวนแผนการเปิด 7 โครงการในปีนี้ โดยจะเลื่อนเปิด 5 โครงการใหม่ออกไปเปิดตัวโครงการในปี 2564 รวมมูลค่าโครงการสูงถึง 20,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการมูลค่า 11,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท ทำให้ในปีนี้บริษัทจะมีโครงการเปิดขายใหม่เพียง 2 โครงการเท่านั้น
โดยสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทจะมุ่งเน้นบริหารสินค้ารอการขายพร้อมโอน (สต๊อก) ที่อยู่ในพอร์ตประมาณ 8,000 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ จะเร่งระบายสต๊อกในมือออกอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงกลยุทธ์หลักในเรื่องของการจัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อ เพื่อให้มีการขายที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทประสบความสำเร็จจากการออกแคมเปญพิเศษ ภายใต้ชื่อ ซีเคล็ดดิว สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 600 – 700 ล้านบาท ส่งผลให้ปิดการขายโครงการเก่าไปได้ 4-5โครงการ
สำหรับ 2 โครงการใหม่ที่เปิดขายในปีนี้ ได้แก่ โครงการ Malton Private Residences Sukhumvit 31 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-1-98.8 ไร่ในทำเลใจกลางสุขุมวิท ที่มีความเป็นส่วนตัวอย่างซอยสวัสดี ประกอบด้วยบ้านระดับซูเปอร์ลักชัวรี 4 ชั้น จำนวน 7 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 68-85 ล้านบาท มูลค่ารวม 550ล้านบาท และโครงการ Malton Private Residence Ari ตั้งอยู่บนพื้นที่1-1-97.7ไร่ ใน ซ.พหลโยธิน 8 โครงการบ้านระดับซูเปอร์ลักชัวรี 5 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 62-85 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจองโครงการละ 2 ยูนิตแล้ว
ทั้งนี้ ในภาพรวมตลาดระดับซูเปอร์ลักชัวรี ถือเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการสูง และยังสามารถขับเคลื่อนไปได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับตลาดเซ็กเมนท์อื่นๆ ขณะเดียวกัน ไม่ค่อยมีซัพพลายใหม่เข้ามาเติม เนื่องจากที่ดินในการพัฒนาโครงการใหม่ค่อนข้างหายาก โดยเฉพาะบ้านจัดสรรที่มีซัพพลายใหม่ค่อนข้างน้อย แต่คุ้มค่ากว่าเพนท์เฮาส์ด้วยพื้นที่ใช้สอยและความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า.