เร่งจัดแพ็กเกจท่องเที่ยว ขายทะเลหมอกวิวเขาทะลุ
ทุกเสียงขานรับแนวคิด “ผอ.รักษ์พงษ์” เร่งสร้างแพ็กเกจฯดูดเงินนักท่องเที่ยวต่างถิ่นอย่างเป็นระบบ ชูจุดชมวิวทะเลหมอก “ตาปัง” เมืองชุมพร เป็นต้นแบบ ด้าน “พ่อเมืองชุมพร” แนะผู้นำชุมชนท้องถิ่น ตีกรอบและจัดระเบียบการท่องเที่ยวชุมชนฯ เน้นคงความงามดิบๆ ตามธรรมชาติ ขณะที่ ปธ.กองทุนหมู่บ้านบนดอยฯ พร้อมนัดคุยสร้างชุดแพ็คเกจท่องเที่ยว ขายจุดชมทะเลหมอกวิวเขาทะลุแล้ว
นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผอ.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) พร้อมด้วย นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผจว.ชุมพร และผู้บริหารระดับสูงของ สทบ. ลงพื้นที่พบปะกับผู้นำฯ และตัวแทนกองทุนหมู่บ้านบนดอย ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ภายใต้การนำของ นายสุชาติ ทองมี ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านฯ จ.ชุมพร และมี นายประเสริฐ ภักดี ประธานกองทุนหมู่บ้านบนดอยฯ และสมาชิกฯ คอยให้การต้อนรับ เมื่อช่วงสายวันที่ 16 ก.ค.2563
นายรักษ์พงษ์ ผอ.สทบ. ย้ำว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จำเป็ต้องหันมาพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ สอดรับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นทำเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ในส่วนของ สทบ.ได้เน้นดำเนินการผ่านโครงการพัฒนาด้านขนส่งและการท่องเที่ยวชุมชน เพราะหัวใจหลักสำคัญคือการสร้างรายได้ให้กับสมาชิก 12.9 ล้านครัวเรือน หรือราว 40 ล้านคน จาก กองทุนหมู่บ้านฯ 79,604 แห่ง
“กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ ถือเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจฐานรากและชาวบ้านในท้องถิ่นทั่วประเทศที่ต้องทำให้เกิดความเชื่อมโยงกันเอง และร่วมมือกับพันธมิตรในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต ด้านวิชาการ และด้านการตลาด ทำให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่นสร้างความเติบโตเข็มแข็งทางเศรษฐกิจ” นายรักษ์พงษ์ กล่าวและว่า
ขณะนี้ทุกหมู่บ้านในทุกภาคทั่วประเทศมีความตื่นตัวสูงมาก และต้องการมีส่วนในการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตมาได้ด้วยการเกษตรและการท่องเที่ยว อีกทั้งรัฐบาลต้องการเชื่อมโยงการผลิตและการท่องเที่ยวภายใน ดังนั้น สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆในชุมชนฯจะสามารถขายได้ ก็ต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามา จึงต้องวางแผนงานให้ดีหากจะพัฒนาให้คนมาท่องเที่ยวนั้น จะพัฒนาในส่วนใดบ้าง
สำหรับการเดินทางมาเยี่ยม กองทุนหมู่บ้านบนดอย และการเยี่ยมชมโครงการท่องเที่ยวชุมชนดอยตาปัง ซึ่งเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มีแสงอาทิตย์ยามเช้า ทะเลหมอกสวยๆ อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.ชุมพร สามารถมองเห็นวิว “เขาทะลุ” ถือเป็นหนึ่งของการท่องเที่ยวโดยกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ “สุดอันซีน” ของภาคใต้ จำเป็นจะต้องเร่งส่งเสริมด้วยการสร้างแพ็กเกจท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ผ่านการใช้ระบบการขนส่งนักท่องเที่ยวด้วยรถโดยสารปิ๊กอัพขับเคลื่อนสี่ล้อไปยังจุดชมวิวของกองทุนฯเป็นตัวตั้ง พ่วงไปกับอาหาร เครื่องดื่ม และที่พักโฮมสเตย์ ขายให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไป ขณะเดียวกัน ก็ใช้การท่องเที่ยวที่มีจุดชมวิวทะเลหมอกของดอยตาปังเป็นจุดขาย และนำไปแลกเปลี่ยนกับสินค้าและบริการจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯอื่นๆ จะทำให้เกิดความเข้มแข็งที่ยั่งยืนได้
“ขอชื่นชมการดำเนินการของกองทุนหมู่บ้านบนดอยที่มีความเข้มแข็ง สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ให้ สทบ. สนับสนุนกองทุนหมู่บ้านฯ ได้มีบทบาทในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ สร้างรายได้แก่คนในท้องถิ่น โดยเฉพาะความพยายามที่จะให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนฯตามวิถีของชาวบ้าน ซึ่งกองทุนหมู่บ้านบนดอยแห่งนี้ มีการบริหารจัดการอย่างดี ที่สำคัญคือประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนา และบริหารจัดการกองทุน สามารถนำเงินที่มีอยู่สร้างความมั่นคงให้แก่คนในชุมชนและมีรายได้ต่อเนื่องด้วย” ผอ.สทบ. ย้ำ
ด้าน นายวิบูลย์ ผจว.ชุมพร กล่าวว่า จ.ชุมพร พร้อมให้ความร่วมมือกับ สทบ. และกองทุนหมู่บ้านฯในจังหวัด เป้าหมายเพื่อที่จะยกระดับชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวชุมพรให้ดีขึ้น นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากสินค้าเกษตร อาทิ ทุเรียน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มังคุด กาแฟ ฯลฯ ที่มีรายได้รวมกันหลายหมื่นบ้านบาทแล้ว รายได้จากการท่องเที่ยวและภาคบริการก็มีไม่น้อนที่เดียว ใกล้เคียงกับรายได้จากการจำหน่าย ปาล์มน้ำมัน เฉลี่ยปีละเกือบ 8,000 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้นราว 3 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติ 2.2 ล้านคน
“ปัญหาจากโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด ดังนั้นการส่งเสริมกิจกรรมภายในพื้นที่ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชนฯ จึงเป็นสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของการท่องเที่ยวบริเวณจุดชมวิวดอยตาปัง อยากให้ทางผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน ได้ใช้อำนาจที่มีบริหารจัดการในเรื่องสถานที่และจัดระบบการขนส่งผู้โดยสาร โดยกำหนดประเภทพาหนะในการเดินทางขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งไม่เพียงเป็นการจัดระเบียบการเดินทางและขนส่ง หากยังเป็นเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย” ผจว.ชุมพร ระบุและย้ำว่า
สิ่งนี้น่าจะเป็นต่อชาวบ้านในชุมชนฯ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วิทยา ซึ่งส่วนตัวไม่ต้องการเห็นกลุ่มทุนจากนอกพื้นที่เข้ามาลงทุนสร้างรีสอร์ทหรือที่พักอาศัยหรูๆ แต่อยากให้คงความดิบและอิงกับธรรมชาติเช่นนี้ต่อไป
ขณะที่ นายประเสริฐ ภักดี ประธานกองทุนหมู่บ้านบนดอยฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้านบนดอยฯ เข้าร่วมโครงการให้บริการขับรถรับส่งนักท่องเที่ยวขึ้นลงจุดชมวิวดอยตาปังรวมกัน 14 คัน เป็นรถโดยสารปิ๊กอัพขับเคลื่อนสี่ล้อรวมทั้งสิ้น 14 คัน โดยแต่ละครั้งจะเก็บค่าโดยสารขึ้นลง (ไปกลับ) จุดชมวิวครั้งละ 500 บาท สำหรับโดยสารต่อเที่ยว 5-6 คน/คัน
ทั้งนี้รายได้จะถูกหักเข้ากองทุนฯครั้งละ 50 บาท (10%) เพื่อนำไปสมทบทุนในการก่อสร้างและซ่อมแซมถนน ในช่วงการขึ้นลงจุดชมวิว รวมระยะทางไปกลับประมาณ 12 กม.เศษ โดยจากแนวคิดของ ผอ.สทบ.นั้น จากนี้ทางกองทุนหมู่บ้านบนดอยฯ อาจต้องนัดประชุมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแพ็กเกจการให้บริการด้านการท่องเที่ยวไปยังจุดชมวิวดอยตาปังอย่างเป็นระบบ ต่อไป.