เคาะเรียก“คนเกาะเต่า”มาเช่าที่ราชฯถูกๆ
“ยุทธนา – ผจว.สุราษฎร์” นำทีมลงพื้นที่แก้ไขปมเดือดร้อนของคนพื้นที่เกาะเต่า-เกาะนางยวน รวมกว่า 1.5 หมื่นไร่ ประกาศกวักมือเรียกผู้บุกรุกมาทำสัญญาเช่าราชพัสดุในอัตราผ่อนปรน เผยต้องยื่นคำร้องก่อน 18 ส.ค.ปีหน้า ถูกสุด! คิดค่าเชื่อเพื่ออยู่อาศัยแค่ 40 บาท/ไร่/ปี พร้อมกับติดตามความคืบหน้าโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ”
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ นายวิชวุทน์ จินโต ผจว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้บริหารของกรมธนารักษ์ และ จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ครอบครองที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ.588 (เกาะเต่า) โดยติดตามความคืบหน้าโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ในการนี้ ได้ประชุมหารือกับแกนนำชุมชน นอภ.เกาะเต่า นายก อบต.เกาะเต่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ราว 200 คน เพื่อรับทราบปัญหา ความต้องการ ตลอดจนหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายยุทธนา ระบุว่า พื้นที่บนเกาะเต่า เดิมใช้ประโยชน์ในราชการกรมราชทัณฑ์ เป็นที่ตั้งเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฏบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ ก่อนปี2476 กรมราชทัณฑ์ได้นำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุไว้เมื่อปี 2478 เป็นแปลงหมายเลขทะเบียนที่ 34 สภาพเกาะเต่า จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 (3) โดยมีเกาะหางเต่า เป็นบริวารของเกาะเต่าจึงเป็นที่ราชพัสดุด้วย ปัจจุบันขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นแปลงหมายเลขทะเบียน ที่ สฎ.588 โดยมีอาณาเขตคงเดิม คือ เกาะเต่าทั้งเกาะและเกาะนางยวน มีเนื้อที่ตามภาพถ่ายทางอากาศ 15,000 ไร่ และ 219 ไร่ ตามลำดับ มีหลักฐานการครอบครองที่ดินเป็น ส.ค.1 เลขที่ 1 ซึ่งเป็น ส.ค.1 ฉบับเดียวบนเกาะเต่า ทั้งนี้ หากราษฎรยื่นคำร้องขอเช่าก่อนวันที่ 18 ส.ค.2564 จะได้รับค่าเช่าในอัตราผ่อนปรน โดยเพื่ออยู่อาศัยและการเกษตร อัตราไร่ละ 40 บาทต่อปี และเพื่อการท่องเที่ยว หรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่น ไร่ละ 200 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ อธิบดีกรมธนารักษ์ ยังได้รับข้อสังเกตของราษฎรเพื่อนำไปหารือแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อกำหนดนโยบายก่อนลงมาสู่ระดับปฏิบัติ โดยให้ถือเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนของกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี เร่งรัดการพิสูจน์สิทธิ การจัดให้เช่า และการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วด้วย ก่อนจะย้ำว่า “การแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะเต่า ได้พยายามมีการแก้ไขปัญหามาตั้งแต่ปี 2535 แล้ว ซึ่งในวันนี้ กรมธนารักษ์มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาการครอบครองพื้นที่ดังกล่าว และอยากให้ราษฎรเข้าสู่ระบบการเป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ เพื่อให้การครอบครองพื้นที่เป็นไปอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด”
ปัจจุบัน จ.สุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการจัดให้ราษฎรได้รับสิทธิการเช่าไปแล้ว 298 ราย เนื้อที่ประมาณ 2,407-1-46.6 ไร่ แบ่งเป็นเพื่ออยู่อาศัย 10 ราย เพื่อการเกษตร 61 ราย เพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยว 220 ราย และเพื่อประโยชน์อย่างอื่น 7 ราย สำหรับราษฎรที่จะโต้แย้งสิทธิและประสงค์จะขอดำเนินการพิสูจน์สิทธิ ก็สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านการพิจารณาของ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จ.สุราษฎร์ธานี ได้
“สุดท้าย การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้ หากทุกฝ่ายเข้าใจและยอมรับในกติกาที่กำหนดไว้ และกรมธนารักษ์ต้องการที่จะแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานด้วยความจริงใจ และพร้อมที่จะรับฟังทุกปัญหาและความต้องการของพี่น้องชาวเกาะเต่าทุกๆ คน” นายยุทธนา สรุป.
