หวั่นบาทแข็ง หลังโควิดฯขวิดจีดีพีต่ำสุด -8.1%
ตามคาด บอร์ด กนง. สั่งคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ชี้ จีดีพีไทยปี’63 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ “ติดลบ 8.1%” จากวิกฤตโควิดฯถล่มเศรษฐกิจทั่วโลก สั่งจับตาอัตราแลกเปลี่ยน หวั่นค่าบาทแข็งโป๊ก พร้อมงัดมาตรการที่เหมาะสมแก้ไข
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงผลการประชุมนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2563 ว่า ที่ประชุม กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี เพราะคาดเศรษฐกิจไทยปี 2563 มีแนวโน้ม -8.1% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ -5.3% โดยเป็นตัวเลขจีดีพีที่ต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ จากผลกระทบเกินคาดหมายของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลก กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งเสถียรภาพระบบการเงินมีความเปราะบางมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ยังคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังของปี เศรษฐกิจไทยจะทยอยฟื้นตัว หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ผ่อนคลายจากการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป มีแนวโน้ม -1.7% ตามราคาพลังงานที่ลดลงรุนแรงตามอุปสงค์ที่ลดลง และคาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 0.9 % ในช่วงปี 2564 ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันและเศรษฐกิจ
นายทิตนันทิ์ ยังระบุด้วยว่า คณะกรรมการฯ มีความกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงให้ติดตามสถานการณ์ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประเมินความจำเป็นของการดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม
“คณะกรรมการ กนง. เห็นว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งมาตรการการคลังของรัฐบาลและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อที่ออกมาเพิ่มเติม ช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นและจะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้หลังการระบาดของโรคโควิด-19คลี่คลาย เอื้อให้เงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมาย และลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน กนง. จึงเห็นควรให้คงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้” นายทิตนันทิ์ กล่าว.