ค้าน‘สุพจน์ ทรัพย์ล้อม’นั่งที่ปรึกษา
ACT ออกจ.ม.เปิดผนึกค้านรมว.ยธ. ตั้ง ‘สุพจน์ ทรัพย์ล้อม’ นั่งที่ปรึกษาโครงการเรือนจำอุตสาหกรรมองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ออกจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.ยุติธรรม ค้านแต่งตั้ง ‘สุพจน์ ทรัพย์ล้อม’ นั่งที่ปรึกษาโครงการเรือนจำอุตสาหกรรมฯ พร้อมถามหาธรรมาภิบาล ยกเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ที่ปกป้องไม่ให้คนไม่ดีปกครองบ้านเมือง และนายกรัฐมนตรีที่ประกาศเป็นรัฐบาลโฉมใหม่ที่ยึดมั่นความถูกต้อง
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2563 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกจดหมายเปิดผนึกถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่อง ธรรมาภิบาลของกระทรวงยุติธรรม กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งให้นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งพ้นโทษจากคดีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จออกจากเรือนจำเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เป็นที่ปรึกษาของโครงการออกแบบโครงสร้างและบริหารจัดการเรือนจำอุตสาหกรรม หรือเกษตรกรรมเพื่อการแก้ไขและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง
โดยในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า ตามที่ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่าจะมีการแต่งตั้งอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำในคดีคอร์รัปชัน และยังมีคดีอื่นที่ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรมให้มีตำแหน่งในอนุกรรมการคณะหนึ่งของกระทรวงฯ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีเจตนารมณ์ชัดเจนที่ จะปกป้องสังคม มิให้ผู้ที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมืองฯ อีกทั้งท่านนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศการเป็นรัฐบาลโฉมใหม่ที่จริงจัง และยึดมั่นความถูกต้อง ซึ่งความตั้งใจเช่นนี้จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้ จำต้องพิสูจน์โดยการกระทำของรัฐบาลทั้งคณะ มิใช่เพียงผู้นำรัฐบาลหรือกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
การที่กระทรวงยุติธรรม เป็นองค์กรหน่วยงานที่สังคมคาดหวังว่าต้องเป็นแบบอย่างของความถูกต้อง เที่ยงธรรม ดังนั้นทุกการกระทำจึงควรยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ด้วยความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด การเชื้อเชิญให้บุคคลผู้มีประสบการณ์มาช่วยงานราชการ จึงควรสรรหาคนดี คนเก่งที่ไม่มีมลทินในเรื่องคอร์รัปชัน ซึ่งเชื่อได้ว่าประเทศไทยยังมีบุคคลเช่นนี้อยู่มาก
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เชื่อว่าการต่อสู้เอาชนะคอร์รัปชัน หลักสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนตระหนักว่า การโกงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ คนโกงต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ข้าราชการและนักการเมืองที่ถูกศาลตัดสินแล้วว่าทุจริต ได้โอกาสกลับเข้ามามีบทบาทในวงราชการและการเมืองอีก จึงเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้.