“วิทัย” นำ กบข. คว้า 5 รางวัลอินเตอร์
“วิทัย” สร้างผลงานทิ้งทวนระดับอินเตอร์ฯ พา กบข.คว้า 5 รางวัลสุดยอดด้านธรรมาภิบาล บริหารจัดการกองทุน การลงทุนที่ยั่งยืน และสื่อสารสมาชิก จากสื่อด้านการเงินและการลงทุนของประเทศอังกฤษและประเทศฮ่องกง
นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า กบข. รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลสุดยอดด้านธรรมาภิบาล บริหารจัดการกองทุน การลงทุนที่ยั่งยืน และสื่อสารสมาชิก ทั้ง 5 รางวัล สะท้อนความเชื่อมั่นจากสังคมภายนอกระดับภูมิภาคและระดับโลก ส่งผลย้ำความรู้สึกผูกพัน (Engagement) ภูมิใจ (Proud) และ มั่นใจ (Trust) ในองค์กร จากทั้งคณะกรรมการ กบข. สมาชิก กบข. และพนักงาน
“ทุกรางวัลที่ กบข. ได้รับเป็นทั้งเครื่องยืนยันความสำเร็จในความมุ่งมั่นทุ่มเทบริหารกองทุนและเป็นความท้าทายที่ กบข. ต้องทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อทำลายสถิติความสำเร็จของตัวเอง” นายวิทัย ย้ำและว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้ กบข. ได้รับรางวัลทั้ง 5 รางวัลนั้น เกิดจากผลงานปี 2562 แยกเป็นผลงานเด่น 3 ด้าน ดังนี้
ผลงานเด่นด้านธรรมาภิบาล ประกอบด้วย การสร้างกระแสตื่นตัวด้านธรรมาภิบาลให้กับตลาดทุนไทยจากการที่ กบข. เป็นผู้ริเริ่มและผลักดันการลงนามร่วมกันในแนวปฏิบัติการระงับลงทุน (Negative List Guideline) ระหว่าง 32 นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นความร่วมมือสำคัญครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขณะเดียวกัน กบข. เองยังได้รับการยกย่องว่าเป็นองค์กรที่เข้มแข็งเรื่องธรรมาภิบาลสะท้อนจากคะแนนประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ที่ กบข. มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ของหน่วยงานประเภทกองทุนของรัฐ
ผลงานด้านการลงทุนที่ยั่งยืน ประกอบไปด้วย การจัดทำ ESG-focused portfolio สำหรับหุ้นไทย การปรับเพิ่มสัดส่วนลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่คำนึงปัจจัยลงทุนเพื่อความยั่งยืน การนำปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment Social and Governance) มาเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินราคาสินทรัพย์และกระบวนการตัดสินใจลงทุน การนำแนวทางบริหารการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของ OECD และ PRI มาประยุกต์ใช้ โดย กบข. มีเป้าหมายต่อเนื่องสำหรับปี 2563 คือการทำให้พอร์ต กบข. มีเฉพาะหลักทรัพย์ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ลงทุนที่ยั่งยืน (100% ESG Portfolio)
และผลงานสำคัญด้านการสื่อสารสมาชิก กบข. ได้ปฏิวัติรูปแบบการสื่อสารเข้าสู่ดิจิทัล โดยมี My GPF App เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสื่อสารและให้บริการครบวงจร (End-to-End) นับตั้งแต่วันแรกเป็นสมาชิกจนสิ้นสุดสมาชิกภาพ ทำให้สมาชิกสามารถใช้บริการส่วนบุคคล (Personalized) ได้สะดวกรวดเร็วและเรียลไทม์ โดยในปีที่ผ่านมามีสมาชิกกดใช้บริการต่างๆ รวมกันกว่า 14 ล้านครั้ง (เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 535 เมื่อเทียบกับปี 2561) ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมากหากเทียบกับจำนวนสมาชิกซึ่งมีเพียง 1.08 ล้านคน เป็นต้น
นายวิทัย ที่กำลังจะสิ้นสุดกับตำแหน่งเลขาธิ กบข. และเข้ารับตำแหน่ง ผอ.ธนาคารออมสินในเร็วๆ นี้ สรุปว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาของ กบข. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางขับเคลื่อน 3 ภารกิจเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ประกอบด้วย 1.สมาชิกมีเงินออมเมื่อเกษียณที่เพียงพอ (Sufficient Retirement Saving) 2.กองทุน กบข. สร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ต่อเนื่องและมั่นคง (Stability Return) และ 3.การมีส่วนร่วมสร้างประเทศและสังคมให้เป็นสังคมที่ยั่งยืน (Social Sustainability) ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับจุดยืนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Positioning) ของ กบข. ที่ต้องการเป็นกองทุนบำนาญที่ยั่งยืน (Sustainable Pension)
อนึ่ง 5 รางวัลระดับนานาชาติได้แก่
1.Best Pension Fund Governance – Thailand 2019 จาก Capital Finance International (United Kingdom)
2.Best Pension Fund Management Company Thailand 2019 จาก International Finance (United Kingdom)
3.Best Corporate Governance Company – Pension Fund – Thailand 2019 จาก International Finance (United Kingdom)
4.Best ESG Strategy (Thailand) จาก Asia Asset Management (Hong Kong) และ
5.Best Pension Fund for Member Communications (ASEAN) จาก Asia Asset Management (Hong Kong).