ชัดเจน! “อุตตม” ยันไม่เคยลาออก หน.พปชร.
“อุตตม” ย้ำหนักแน่น! ไม่เคยประกาศลาออก วันนี้ยังคงทำหน้าที่ “รมว.คลัง-หน.พรรคพลังประชารัฐ” ระบุ! “ข่าวก็คือข่าว – เรื่องพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค” ยืนยัน พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มองภาพและเตรียมการทำงานในอนาคตแล้ว ส่วนปัญหาการบินไทย ต้องสรุปจบ! ใน ครม.เท่านั้น
“กระแสข่าวร้อน” ที่ตีคู่กันมาในยามนี้ ระหว่าง…ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ และปัญหาของ บมจ.การบินไทย สุดท้ายกลายเป็นเรื่องที่ “คำตอบ” อาจออกมาจากปากของคนๆ เดียว นั่นคือ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ซึ่งในการประชุมทบทวนภาวะเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563 ณ ห้องประชุมวายุภักดิ์ 1 กระทรวงการคลัง นั้น ปรากฏกองทัพผู้สื่อข่าวแขนงต่างๆ เดินทางมายังกระทรวงการคลัง เพื่อเกาะติดใน 2 ประเด็นข่าวร้อนข้างต้น
โดยเฉพาะ หาก นายอุตตม ลาออกจากการเป็น “หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” จริง! จะส่งผลกระทบต่อเก้าอี้ “รมว.คลัง” หรือไม่? และขยายผลไปยังความล้มเหลวในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงแผนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลกันเลยหรือเปล่า?
ทั้งนี้ นายอุตตม กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า ตนได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันว่า ยังมีการไม่ลาออกอะไรทั้งนั้น ข่าวก็คือข่าว ขอเรียนตามข้อเท็จจริงว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม สภาพเดิมๆ ตนยังทำงานเหมือนเดิม เช่นที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ เรื่องพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค ถึงตอนนี้ พรรคยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตนยังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคฯและทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดนี้เหมือนเช่นปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า ได้เกิดแรงกดดันภายในพรรคฯเพื่อให้ตนลาออกนั้น ตอนนี้ก็เป็นอย่างที่เห็น ตนยังอยู่ตรงนี้
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลใจว่า การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพลังประชารัฐจะส่งผลกระทบต่อการบริหารนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น ตนขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ตนยังคงทำหน้าที่อยู่ตรงนี้และจะทำงานอย่างเต็มที่เหมือนเดิม ซึ่งจาก การประชุมร่วมกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายประสงค์ พูนธเนศ นายนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผอ.สํานักงบประมาณ นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อที่คุยกัน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญอย่างมาก สะท้อนว่าพวกเขามองภาพและเตรียมการไปข้างหน้าว่าจะบริหารจัดการบ้านเมืองและสภาพเศรษฐกิจกันอย่างไร ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาผลกระทบเฉพาะหน้า แต่มองภาพเกี่ยวเนื่องไปในระยะข้างหน้าด้วย
วันจันทร์ที่ 18 พ.ค.ทาง สภาพัฒน์และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จะร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ 2 หน่วยงานจะได้แถลงข่าวร่วมกัน เพราะเป็นช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งของสภาพัฒน์และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกัน คงต้องรอดูการแถลงข่าวในครั้งนี้
เมื่อถามว่า ไตรมาส 3 และ 4 จะมีข่าวดีหรือไม่? นายอุตตม ตอบว่า ขึ้นกับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะเป็นอย่างไร ในส่วนของผลกระทบต่อเนื่องมันย่อมนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นข้อเท็จจริง เหตุเกิดขึ้นมาแล้ว คนตกงานแล้ว รัฐบาลและกระทรวงการคลังก็พยายามดูแลกันอยู่ แต่ถ้ามันจะมีปัจจัยบวกเข้ามาใน 2 ไตรมาสหลัง เช่น สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น การค้าขายสามารถทำได้มากขึ้น การท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้น การค้ากระเตื้อง ก็เป็นเรื่องที่ดี และเป็นปัจจัยบวกเข้ามา ส่วนจะแค่ไหนอย่างไรนั้น เราคงคาดการณ์ได้ลำบาก
“ส่วนปัจจัยเสี่ยงในทางการเมืองนั้น ผลกระทบมันย่อมมีอยู่แล้ว ในระบบของการเมืองเอง เมื่อเราเป็นรัฐบาล ก็ต้องดูแลกัน เพื่อให้สามารถทำงานให้กับประชาชนได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตนี้ นายกรัฐมนตรีเอง ยังให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้เอางานนำทุกอย่าง” เพื่อให้เราสามารถจะดูแลกันได้ ทั้งนี้ หากสานการณ์โควิด-19 ยังคงดำรงอยู่ รัฐบาลก็จำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรับมือและแก้ไขสถานการณ์นี้ต่อไป” รมว.คลัง ระบุ
ส่วนกรณี ปัญหาของ บมจ.การบินไทย ในฐานะที่ กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ 51% นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสที่ บมจ.การบินไทย จะถูกนำเข้าไปสู่กระบวนการล้มละลายหรือไม่? นายอุตตม ตอบว่า ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ส่วนตัวเชื่อว่า ทั้งหมดจะไปจบที่คณะรัฐมนตรี ซึ่งหากที่ประชุมฯเห็นพ้องให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับ บมจ.การบินไทย มันก็ต้องเป็นเช่นนั้น.