GOLDไม่หวั่นโควิดลุยเปิดโครงการครึ่งปีหลัง
“โกลเด้นแลนด์” เผย 3 เดือนยอดรับรู้รายได้เกือบ 4,000 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิกว่า 351 ล้านบาท แม้อยู่ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 พร้อมลุยครึ่งปีหลัง เปิดต่อ 8 โครงการแนวราบ มูลค่า 9,400 ล้านบาท
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์มาเน้นความสำคัญการบริหารกระแสเงินสด และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน เพื่อให้พนักงาน คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยทั้งปี 2563 จะเปิดขายโครงการแนวราบรวม 13 โครงการ มูลค่ารวม14,000 ล้านบาท และคาดการณ์รายได้จากโครงการเชิงพาณิชย์ 1,000 ล้านบาทจากอาคารสำนักงาน เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ และมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ที่คงเปิดให้บริการได้ตามปกติ และศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ที่จะกลับมาเปิดเต็มรูปแบบภายในเดือนมิถุนายนนี้
“ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ยอดขายโครงการแนวราบของบริษัทไปได้ดี โดยมียอดเข้าชมโครงการเพิ่มขึ้น 40-50% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากลูกค้ามีความจำเป็น ต้องใช้จริงจากการปรับรูปแบบ Work from home ที่ต้องการพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยและทำงาน โดยไม่รบกวนกันของสมาชิกในครอบครัว ต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ฟังก์ชั่นของโครงการแนวราบ จึงตอบโจทย์มากกว่าสินค้าประเภทอื่น ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ยอดขายกลับมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันที่มีมาตรการ LTV ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายสะสมที่ 2,900 ล้านบาท รับรู้ทั้งหมดในปีนี้ และในครึ่งปีหลัง มีแผนเปิด 8 โครงการแนวราบ มูลค่ารรวม 9,400 ล้านบาท”
สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงาน แม้หลายบริษัทฯ จะปรับให้พนักงานทำงานที่บ้านมากขึ้น แต่บริษัทฯยังเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ รูปแบบการทำงานที่ทำงานจะกลับมาเช่นเดียวกัน เพราะยังจำเป็นต้องใช้พื้นที่สำหรับการประชุม และการใช้พื้นที่ร่วมกันของพนักงาน จึงคาดว่าจะไม่ทำให้ภาพรวมความต้องการพื้นที่สำนักงานลดลงจนเกิดผลกระทบ
ส่วนธุรกิจศูนย์การค้า ทางบริษัทฯ มีความพร้อมเปิดให้บริการสามย่านมิตรทาวน์ หากมีการประกาศจากภาครัฐ ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ก็พร้อมให้บริการได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนี้ ได้เตรียมแนวทางการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการระยะห่างทางสังคมเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีการคัดกรองผู้ใช้บริการเป็นอย่างดีแล้ว
“แม้ว่าขณะนี้ สถานการณ์ภาวะวิกฤตโควิด-19 ของประเทศไทยจะดีขึ้น แต่คงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ความท้าทายกลับอยู่ที่การวางแผนหลังจากวิกฤตคลี่คลาย ในการปรับตัวไปสู่ New Normal เช่น มาตรการรองรับรูปแบบการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อจัดการคิวจองซื้อบ้านในวันเปิดโครงการ การเปิดศูนย์การค้าอย่างระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับมาตรการระยะห่างทางสังคมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้บริษัทฯ มีความพร้อม และมั่นใจในการเดินหน้า ปรับตัวสู่ New Normal ที่สามารถรักษาผลการดำเนินงานของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่ไม่เกิดผลกระทบกับพนักงาน คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ”.