คลังเดินหน้ากู้แล้ว ล็อตแรกในประเทศ 5 หมื่นล.
คลังเริ่มแล้ว! เดินหน้ากู้ตามแผนกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ล็อตแรกกู้ในประเทศแค่ 5 หมื่นล้านบาท ด้วยการออกพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” แบ่งเป็นรุ่นอายุ 5 ปี และ10 ปี ดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 2.4% และ 3.0% ตามลำดับ เริ่มเช้าวันที่ 14 พ.ค.นี้
แผนกู้เงินในประเทศ ตามโปรเจ็กต์ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท) เริ่มเดินเครื่องแล้ว นำร่องด้วย พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” ของกระทรวงการคลัง วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได รุ่นอายุ 5 ปี เฉลี่ยร้อยละ 2.40 และรุ่นอายุ 10 ปี เฉลี่ยร้อยละ 3.00 ต่อปี
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง แถลงว่า พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จะเป็นแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อบรรเทาผลกระทบ และแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามแผนงานโครงการของรัฐบาล ภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินวงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งพันธบัตรออมทรัพย์เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายของรัฐบาลซึ่งจะสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยของประชาชนรายย่อย และเป็นการเยียวยาให้กลุ่มประชาชนที่เสียภาษีให้กับรัฐบาลให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ตลาดการเงินมีความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 14 พ.ค. 2563 เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป
ด้าน นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผอซสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวเสริมถึงรายละเอียดการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ฯดังกล่าว ว่า การจำหน่ายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยสัปดาห์ที่ 1 จำหน่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สัปดาห์ที่ 2 จำหน่ายให้ประชาชนรายย่อยซื้อได้ก่อน แบบจำกัดวงเงิน 2 ล้านบาท/คน/ธนาคาร และสัปดาห์ที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไรเข้าซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงิน โดยซื้อผ่าน BOND DIRECT Application และช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ สรุปเงื่อนไขการจำหน่ายได้ ดังนี้
รุ่นอายุ 5 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได โดยปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.00, ปีที่ 2 – 3 ร้อยละ 2.25, ปีที่ 4 ร้อยละ 2.50 และปีที่ 5 ร้อยละ 3.00
(อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย ร้อยละ 2.40 ต่อปี) ส่วนรุ่นอายุ 10ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1 – 3 อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.50, ปีที่ 4 – 8 ร้อยละ 3.00, ปีที่ 9 ร้อยละ3.50 และปีที่ 10 ร้อยละ 4.00 (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย ร้อยละ 3.00 ต่อปี) กำหนดระยะเวลาการจำหน่าย 14 พ.ค.– 10 มิ.ย. 2563 (ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ดูจากภาพประกอบข่าว)
ทั้งนี้ สบน. ได้แจ้งให้ธนาคารตัวแทนจำหน่ายปรับวิธีการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขและวิธีการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร รวมถึงการใช้งาน BOND DIRECT Application จาก สบน. ซึ่งผู้ลงทุนจะสามารถเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ได้อย่างสะดวกสบายผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเลือกไปชำระเงินที่สาขาธนาคารหรือผ่าน Krungthai NEXT ได้
อนึ่ง ไม่จำกัด *นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ได้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร ** ผู้มีสิทธิ์ซื้อสามารถทำรายการซื้อผ่าน BOND DIRECT Application ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ตามตารางการจำหน่ายช่วงที่ 1 – 3
หมายเหตุ : วงเงินจำหน่ายในแต่ละช่วงไม่นับรวมกันหากชำระด้วยเช็คต้องทำรายการไม่เกินเวลาปิดเคลียริ่งเช็คของแต่ละสาขา และดอกเบี้ยจะเริ่มนับในวันทำการถัดไป (วันที่ 10 มิ.ย. ไม่รับชำระด้วยเช็ค) การจ่ายดอกเบี้ย จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 งวด ได้แก่ วันที่ 14 พ.ย. และวันที่ 14 พ.ค.ของทุกปี, วันครบอายุไถ่ถอน 14 พ.ค.2568 และ 14 พ.ค. 2573 ส่วนช่องทางการจำหน่าย มี 2 ทาง คือ 1.BOND DIRECT Application: ชำระเงินผ่าน Mobile Application และ เคาน์เตอร์ ธ.กรุงไทย และ 2. ATM/Counter/Internet Banking/Mobile Application ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์.