250 สินเชื่อพิกโก้ฯ ช่วยลูกหนี้สู้โควิดฯ
“โฆษก สศค.” เผย! กว่า 250 สินเชื่อพิกโก้ฯ ร่วมมือรัฐบาลร่วมผ่อนปรนเรียกคืน “เงินต้น-ดอกเบี้ย” พร้อมขยายเวลาชำระหนี้ ช่วยลูกหนี้ สู้วิกฤตโควิด-19
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือน มี.ค. 2563 ทาง สศค.ได้มีหนังสือถึงผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อขอความร่วมมือเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 ด้วยความสมัครใจ และเป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์มากกว่า 250 ราย แจ้งตอบรับเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 ทั้งในเรื่องของการพักชำระต้น การลดอัตราดอกเบี้ย และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้
ทั้งนี้ ในเดือนดังกล่าวยังคงมีผู้สนใจยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์และประเภทพิโกพลัส กล่าวคือ มีผู้ยื่นคำขออนุญาตสะสมสุทธิ 1,189 ราย เพิ่มขึ้น 21 รายจากเดือน ก.พ. โดยเป็นพิโกไฟแนนซ์ (ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท) สะสมสุทธิ 1,033 ราย (เพิ่มขึ้น 16 ราย) และ พิโกพลัส (ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท) 156 ราย (เพิ่มขึ้น 5 ราย)
โฆษก สศค. ยังกล่าวถึงกรณี ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้อนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ทดแทนหนี้นอกระบบรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.85 ต่อเดือน โดยได้เร่งกระจายความช่วยเหลือด้านสินเชื่อดังกล่าวแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ว่า ณ สิ้นเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของโครงการสินเชื่อประเภทดังกล่าว มีการอนุมัติสินเชื่อสะสมรวม 624,384 ราย เป็นเงิน 27,366.17 ล้านบาท จำแนกเป็นสินเชื่อที่อนุมัติแก่ประชาชนทั่วไป 578,597 ราย เป็นเงิน 25,390.98 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อที่อนุมัติให้กับผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ที่มีหนี้นอกระบบ 45,787 ราย เป็นเงิน 1,975.19 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงกวดขันจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและผู้ติดตามทวงถามหนี้โดยวิธีการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดสะสมนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 เป็นต้นมา จนถึง มี.ค. มีทั้งสิ้น 5,448 คน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังคงดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาคีแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องใน 5 มิติ ได้แก่ (1) ดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย (2) เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ (3) ลดภาระหนี้นอกระบบโดยการไกล่เกลี่ย (4) เพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ และ (5) สนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยองค์กรการเงินชุมชน ซึ่งประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมายได้โดยตรงที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599, ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1155, ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567, ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359, ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) โทร 0 2575 3344.