บก.ซ้อมความเข้าใจ ปมจัดซื้อจัดจ้างจากเหตุโควิดฯ
กรมบัญชีกลาง (บก.) ซ้อมความเข้าใจหลังวิกฤติโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ หวังเอื้อเพื่อให้การดำเนินการเกิดความคล่องตัวและต่อเนื่อง ย้ำ! ทุกหน่วยงานต้องยึดหลักปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน สร้างประโยชน์ต่อส่วนราชการ
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงผลกระทบที่หน่วยงานของรัฐไม่สามารถดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ดังนั้น คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (กวจ.) จึงได้ซ้อมความเข้าใจการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐกรณีต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้
กรณีที่โรคโควิด-19 เกิดขึ้นก่อนที่หน่วยงานของรัฐจะลงนามในสัญญา หรือข้อตกลงกับผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้าง หรือผู้ได้รับการคัดเลือก เมื่อหน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งให้ผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก มาลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกแจ้งเป็นหนังสือว่าไม่สามารถจะลงนาม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 หากหน่วยงานของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่าต้องลงนามตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ให้มีหนังสือเรียกผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกที่เสนอราคาต่ำสุดหรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดมาทำสัญญาหรือข้อตกลง หากเรียกแล้วไม่ยอมเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงให้เรียกรายถัดไปตามลำดับ
สำหรับผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกที่เสนอราคาต่ำสุด หรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดที่เรียกแล้ว ไม่ยอมเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลง ให้ถือว่ามีเหตุอันสมควรไม่เข้าลักษณะการเป็นผู้ทิ้งงานตามมาตรา 109 แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และให้หน่วยงานของรัฐคืนหลักประกันการเสนอราคาให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย
กรณีที่โรคโควิด-19 เกิดภายหลังจากที่หน่วยงานของรัฐได้ลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงกับคู่สัญญาแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณา ดังนี้
1. การบริหารสัญญา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นเหตุสุดวิสัยตามมาตรา 102 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยเหตุสุดวิสัยให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 การพิจารณางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ดำเนินการดังนี้
1.1 กรณีที่สัญญายังไม่ครบกำหนด ให้หน่วยงานของรัฐนำจำนวนวันที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มาขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ตามจำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง และ 1.2 กรณีที่สัญญาครบกำหนดและมีค่าปรับเกิดขึ้นแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐนำจำนวนวันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา ตามจำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ “จำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง” ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาจากกฎหมาย ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งของทางราชการที่ให้หน่วยงานของรัฐปิดทำการ สั่งห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง สั่งปิดสถานที่หรือสั่งห้ามกระทำการหรือ สั่งการใด ๆ จนถึงวันที่เปิดทำการได้ตามปกติ
2. การตรวจรับพัสดุของหน่วยงานของรัฐ ให้ดำเนินการ ดังนี้
2.1 หากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่สามารถดำเนินการตรวจรับพัสดุหรือไม่สามารถออกไปตรวจงานจ้าง ในกรณีงานจ้างก่อสร้างตามสัญญาหรือข้อตกลงได้ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจแต่งตั้งบุคคลที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ เป็นคณะกรรมการหรือกรรมการตรวจรับพัสดุแทน และ 2.2 ให้เลื่อนระยะเวลาการตรวจรับพัสดุออกไปก่อน จนกว่าคณะกรรมการตรวจรับพัสดุจะสามารถดำเนินการตรวจรับพัสดุนั้นๆ ได้
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้แจ้งให้ส่วนราชการถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันแล้ว รายละเอียดตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 171 ลงวันที่ 24 เม.ย. 2563 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ.