คลังชี้ หลุดเกณฑ์ 4.78 ล.คน จากรอบแรก 8 ล.คน
“โฆษกคลัง” แจง! เช็คยอดลงทะเบียนเยียวยา 5,000 บาท ทำรอบแรกได้แค่ 7.99 ล้านราย แยกเป็นกลุ่มสีเขียว 1.68 ล้านราย แจ้ง SMS โอนเงินไปแล้ว ช่วง 8-10 เม.ย. ส่วนสีเทา 1.53 ล้านราย ขอเวลาเช็คอีก 10 วัน ขณะที่กลุ่มสีแดง ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์มีมากถึง 4.78 ล้านราย เริ่มแจ้ง 12-14 เม.ย.นี้ พร้อมเปิดให้อุทธรณ์
สิ่งที่ “โฆษกกระทรวงการคลัง” นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เคยบอกก่อนหน้านี้ว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ระบบ AI จะทำการคัดกรองเพื่อให้ทราบว่า…ในจำนวนกลุ่มคนกว่า 20 ล้านคน ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน และยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่า…เป็นคนกลุ่มใดนั้น
ที่สุด…จะถูกแยกเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ฯ (สีเขียว) และถูกตัดสิทธิ์ (สีแดง) เพราะขาดคุณสมบัติและอยู่ในกลุ่มที่จะได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการอื่นๆ รวมถึงพวกที่ยังไม่ชี้ชัดว่าจะเป็น…เขียวหรือแดง หรือพวกสีเทามีกี่คน
ซึ่ง “โฆษกกระทรวงการคลัง” ระบุว่า…หากถึงเย็นวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย.แล้ว น่าจะเหลือพวกสีเทาไม่มากนัก
แน่นอนว่า…ในกลุ่มสีเทา กระทรวงการคลังจะทำแบบสอบถามผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ตอบคำถามสำหรับแยกแยะว่า จากนี้…ควรจะแยกเป็นกลุ่มสีเขียวได้มากน้อยแค่ไหน? และหากยังไม่ระบุไม่ได้อีก ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อไปเยี่ยมเยือนถึงบ้าน และทำการสอบทานกันแบบเข้มข้นอีกชั้นหนึ่ง
ล่าสุด นายลวรณ ออกมาบอกถึงความคืบหน้าว่า ภายหลังจากการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่า ในรอบที่ 1 ได้มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านราย โดยจากจำนวนนี้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มผ่านเกณฑ์ (สีเขียว) 1.68 ล้านราย ซึ่งในกลุ่มนี้ได้ทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาและโอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย.ที่ผ่านมา
กลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม (สีเทา) 1.53 ล้านราย โดยการกรอกแบบสอบถามออนไลน์ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com (หัวข้อขอข้อมูลเพิ่มเติม) ขอความกรุณาให้ดำเนินการภายใน 10 วัน นับจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งเพื่อการประมวลผลที่รวดเร็ว ซึ่งได้เริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาแล้วตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. และจะทยอยแจ้งไปจนถึงวันที่ 13 เม.ย. โดยพบว่า ขณะนี้ได้มีผู้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วจำนวนหลายแสนราย
กลุ่มไม่ผ่านเกณฑ์ (สีแดง) 4.78 ล้านราย จะทยอยได้รับ SMS แจ้งผลการพิจารณาในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. โดยส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากได้รับการดูแลผลกระทบจาก Covid-19 โดยรัฐบาลผ่านช่องทางอื่น เช่น ข้าราชการ ผู้รับบำนาญ ผู้ได้รับสิทธิ์ประกันสังคม เกษตรกร เป็นต้น หรือกลุ่มที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งยังคงมิได้ประกอบอาชีพเป็นหลัก และส่วนหนึ่งได้รับการดูแลผ่านช่องทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือกลุ่มที่ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ผู้ค้าขายออนไลน์
ทั้งนี้ ตามที่ได้เริ่มมีกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ถึงการไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากสาเหตุต่างๆ โดยเฉพาะในประเด็นเกษตรกรนั้น ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า เกษตรกรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทุกปีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการขึ้นทะเบียนจะเป็นราย “ครอบครัว”โดยให้หัวหน้าครอบครัวเป็นคนมาขึ้นทะเบียนและในการกรอกรายละเอียดสมาชิกในครอบครัวจะให้ระบุด้วยว่า มีสมาชิกในครอบครัวกี่คน? เป็นใครบ้าง? และสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรมมีกี่คน? คือใครบ้าง?
“ที่ผ่านมารัฐบาลใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรชุดเดียวกันนี้ ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นค่าเพาะปลูกค่าเก็บเกี่ยวค่าปัจจัยการผลิตเป็นต้น ดังนั้น ในการคัดกรองของมาตรการเยียวยา 5,000 บาทกำหนดหลักเกณฑ์ให้ครอบครัวที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรมถือว่า เป็นกลุ่มเกษตรกรไม่ผ่านเกณฑ์ และจะมีการดูแลโดยมาตรการเยียวยากลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะที่จะออกมาเร็วๆ นี้” โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำ
นอกจากนี้ เมื่อปิดรับลงทะเบียนและได้คัดกรองผู้ลงทะเบียนครบถ้วนทั้งหมดแล้ว ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 27 ล้านราย จะเปิดให้มีช่องทางการอุทธรณ์ผลการพิจารณา สำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งผู้ที่ผ่านการอุทธรณ์ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาครบทั้ง 3 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ์
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนยังคงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยจะทยอยแจ้งผลการคัดกรองและโอนเงินเยียวยาอย่างต่อเนื่องตลอดทุกวันทำการ โดยในรอบที่ 2 จะเริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลและโอนเงินเยียวยาในช่วงวันที่ 13-14 เม.ย. ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 6 แสนราย โดยจะเร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองโดยเร็วที่สุด เพื่อให้คนทำงานที่เดือดร้อนจากสถานการณ์ Covid-19 ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันการณ์และตรงตัว.