สรรพสามิตตั้ง ฉก. ล่าแอลกอฮอล์ผิด กม.
สรรพสามิตเผย ภาพรวมแอลกอฮอล์ล้างมือในระบบมีใช้เกินพอ ระบุแค่ช่วง 6 มี.ค. – 6 เม.ย. ป้อนสู่ตลาดแล้ว 15 ล้านลิตร พร้อมบูรณาการ “ไล่จับ” ตั้งหน่วยเฉพาะกิจล่าแก๊งผิดกฎหมาย
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า หลังจากกรมฯดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แอลกอฮอล์หรือสุราสามทับ ไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในอัตราภาษีศูนย์ของสุราสามทับ (แอลกอฮอล์) โดยลดต้นทุนทางภาษี และส่งเสริมให้มีปริมาณผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เสริมสร้างความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้ปัจจุบัน มีปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อใช้ระบบรวมกับแอลกอฮอล์ที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือแล้ว ไม่น้อยกว่า 15 ล้านลิตร (ระหว่างวันที่ 6 มี.ค. – 6 เม.ย. 2563)
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตนจึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโ ดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ จากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามสุราสามทับหรือแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ
ทั้งนี้ ผลการตรวจค้นและจับกุม ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.– 7 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีการกระทำผิดในพื้นที่ 6 จังหวัด จำนวน 15 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 4,571,449 บาท โดยมีของกลาง จำนวน 66,397 ลิตร
“กรมสรรพสามิตมีความห่วงใยและให้ความสำคัญในความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 โดยขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 เพื่อให้สามารถก้าวผ่านภาวะวิกฤตนี้ไปได้” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม แอลกอฮอล์มีคุณลักษณะที่เป็นวัตถุไวไฟ ดังนั้น จึงควรต้องมีการจัดเก็บอย่างถูกต้อง โดยกรณีที่พบผู้กระทำผิดส่วนใหญ่จะจัดเก็บในบ้านพักที่สามารถพบเห็นได้โดยง่าย ดังนั้น เพื่อให้การผลิตแอลกอฮอล์เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีมาตรฐานและมีความปลอดภัย
หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดเก็บหรือการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับหรือแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th.