‘พฤกษา’ เร่งระบายสต๊อกรักษากระแสเงินสด
บิ๊ก”พฤกษา” ปรับกลยุทธ์รับมือวิกฤตโควิด-19 เร่งระบายสต๊อก ก่อสร้างบ้านให้ไวขึ้น พร้อมบริหารกระแสเงิน พยุงธุรกิจ ขยับโหมตลาดออนไลน์เกือบ100% แนะผู้ประกอบการประคองตัวให้รอดพ้นจากวิกฤตให้ได้
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรกของปี 2563 ว่า แม้ตลาดจะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง เหลือรายการละ 0.01% และโครงการบ้านดีมีดาวน์ ที่รัฐบาลสมทบคืนเงินดาวน์มูลค่า 50,000 บาทที่จดนิติกรรมภายในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ตลาดโดยรวมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ถือว่าไตรมาสนี้แย่กว่า เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลต้องประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศเพื่อควบคุมสถานการณ์ ส่งผลยอดเข้าชมโครงการลดลง รวมถึงการปิดห้างสรรพสินค้า และตลาดสด ร้านค้าในพื้นที่ กทม. ทำให้กลุ่มพนักงานระดับล่างและพ่อค้าแม่ค้า ขาดรายได้ ส่งผลถึงกำลังซื้อที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม แม้กำลังซื้อในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะลดหายไปจากตลาด แต่กลับพบว่า คอนโดมิเนียมระดับราคาราคา 1-2 ล้านบาท ยังมีการขยายตัวที่ดี โดยอยู่ในทำเลที่เหมาะแก่การลงทุน และให้ผลตอบแทนจากการเช่า (ยิลด์) ที่ดี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในกลุ่มสถาบันการเงินให้ผลตอบแทนต่ำ ซึ่งในส่วนของพฤกษาฯ คอนโดฯระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ภายใต้แบรนด์ “พลัมคอนโด” ในทำเลใกล้มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็น 2 โครงการที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนัก ลงทุนเป็นอย่างดี เพราะทั้ง 2 โครงการ มีอัตราการเช่าสูงถึง 70% ให้ยิลด์อยู่ที่ 5%
สำหรับแนวทางการปรับตัวของพฤกษาฯเพื่อรับสถานการณ์ในขณะนี้ คือ การบริหารจัดการและรักษากระแสเงินสด โดยในไตรมาส 2 นี้ บริษัทจะไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่จะเน้นการขายสต๊อกบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเร่งก่อสร้างบ้านให้ไวขึ้น เพื่อสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการขายผ่านแคมเปญ Marketing Online
นอกจากนี้ บริษัทได้นำระบบบริหารจัดการ ในการลดต้นทุนด้านการตลาดและการขายเข้ามาช่วย เพื่อลดค่าใช้จ่ายหรือตัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น การจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยในบางโครงการ จัดระบบการเปิดประตูเข้าและออกภายในโครงการเป็นเวลา จะช่วยลดต้นทุนในการดูแลด้านความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านได้อีกทาง ทั้งนี้ บริษัทจะหันมาทำตลาดผ่านระบบออนไลน์เกือบ 100% ผลักดันให้ลูกค้าที่ซื้อผ่านออนไลน์สูงถึง 80%
“ในสถานการณ์ปัจจุบัน แนวทางการแก้ปัญหาของผู้ประกอบการทุกราย ต้องเน้นในเรื่องของการรักษาสภาพคล่อง หรือ กระแสเงินสดของบริษัทไว้ให้ดี เพื่อให้รอดพ้นจากภาวะที่เป็นอยู่ ขณะเดียวกัน ก็ต้องติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด ก่อนกำหนดทิศทางของธุรกิจอีกครั้ง ทั้งนี้โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าทิศทางของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเริ่มดีขึ้น สังเกตได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้มีตัวเลขสูงแบบก้าวกระโดด”.