คลังย้ำ! รัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯกระทบคนไทยน้อยที่สุด
“ชาญกฤช” ย้ำ! รัฐบาลใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” สกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิดเท่าที่จำเป็น เผยสร้างผลกระทบประชาชนน้อยที่สุด ยืนยันไม่ปิดร้านจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า การประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ทั่วประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยเปลี่ยน ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เป็น ศูนย์ฉุกเฉินในเรื่องการแก้ปัญหาโควิด (ศอฉ.โควิด) เพื่อบูรณาการหน่วยงานราชการให้รวมศูนย์ไว้ที่เดียว ให้เกิดการสั่งการอย่างเป็นเอกภาพ รวดเร็วทันต่อสถานการณ์
อีกทั้งยังเป็นการยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีผลตั้งแต่ 26 มี.ค.-30 เม.ย.63 และถึงแม้ว่ามาตรการจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่รัฐบาลจะพยายามบังคับใช้เฉพาะมาตรการเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด
“ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนร่วมแรงร่วมใจ ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด และขอฝากไปยังผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมกักตุนและขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตโดยไม่เป็นธรรม ว่าให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวทันที” นายชาญกฤช กล่าวและว่า
ส่วนมาตรการชดเชยรายได้แก่แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้นำเสนอต่อ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยารายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.2563) เป้าหมายรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน ได้แก่ 1.ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งออกจากงานหรือไม่ทำงานประจำแล้ว แต่ยังส่งเงินสมทบเข้าระบบประกันสังคมอยู่ 2.ลูกจ้างชั่วคราว (ตามสถานประกอบการ สถานบริการ และอื่นๆ) 3.ผู้มีอาชีพอิสระหรือผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่จ่ายเงินสมทบเองเข้ากองทุนประกันสังคม
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม กรณีที่ต้องว่างงาน เนื่องจากมีการปิดกิจการชั่วคราว จะได้รับเงินจากกองทุนประกันสังคมในกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของค่าจ้าง (แต่กำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท) โดยกรณีนายจ้างไม่ให้ทำงาน จะได้รับเงินในกรณีว่างงานไม่เกิน 180 วัน กรณีรัฐสั่งให้หยุดงาน จะได้รับเงินไม่เกิน 90 วัน
“เราจะสู้ไปด้วยกัน และเราจะชนะไปด้วยกัน” นายชาญกฤช กล่าวปิดท้าย.