DRT รุกเจาะรับสร้างบ้าน-หน่วยงานราชการ
“ตราเพชร”ปรับแผนรับมือเศรษฐกิจชะลอตัวจากพิษ”โควิด-19” ชูการบริหาร Product Mix เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสร้างบ้าน มั่นใจตลาดพม่าเติบโตหนุนยอดส่งออกที่ดีขึ้น พร้อมรุกขยายตลาดรับสร้างบ้าน เจาะหน่วยงานราชการ
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT “ตราเพชร” กล่าวว่า แม้จะมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโคโลน่า (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่เรายังมั่นใจว่า เป้ายอดขายในไตรมาสแรกจะได้เท่ากับหรือใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ผ่านมา โดยมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งไตรมาสที่ระดับ 90-95% เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยอยู่ในระดับต่ำ และใช้จุดแข็งด้านแบรนด์สินค้า ‘ตราเพชร’ ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย (Product Mix) สามารถนำไปใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เพื่อผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางจำหน่าย
ประกอบกับ บริษัทฯ มีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ จึงสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยในส่วนตลาดต่างประเทศนั้น จะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอีก 1-2% จากปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนส่งออกประมาณ 18% ของรายได้รวม หลังจากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะพม่าที่มีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ น่าจะได้รับผลดีจากการที่ผู้ประกอบการมีแผนงานขยายสาขาในปีนี้รวมกว่า 10 สาขา ส่วนช่องทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยยังคงทรงตัว มีเพียงกลุ่มลูกค้าโครงการที่ชะลอตัวเล็กน้อย
พร้อมทั้ง เพิ่มโอกาสขายสินค้ามากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำเทคโนโลยี Digital Printing มาใช้ในกระบวนการพิมพ์ลวดลายที่มีความคมชัดสูงลงบนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ เพื่อตอบโจทย์การออกแบบและความต้องการใช้สินค้าเพื่อการตกแต่งได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน กลุ่มลูกค้าโครงการในต่างจังหวัดและรุกเจาะกลุ่มหน่วยงานราชการ “ เรามั่นใจว่า ฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งสภาพคล่องทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และอัตราหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน เราจะเร่งผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย โดยมีแผนขยายตลาดและทยอยนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และรักษาอัตราการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับเดียวกับในอดีตที่ผ่านมา”.