WDC ทุ่ม15 ล้านบาทขยายโชว์รูมพัทยารับอสังหาฯบูม
“เวสเทิร์น เดคอร์ฯ” ขยายเครือข่ายสาขาต่อเนื่อง ทุ่ม 15 ล้านบาท เปิดโชว์รูมใหม่พัทยา รองรับการเติบโตของภาคอสังหาฯ ลงทุนสร้างคลังสินค้ารับพื้นที่วางสินค้า 20,000 ตร.ม. เดินหน้าตามแผนเข้าตลาด mai
นายบัณฑิต หิรัญญนิธิวัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวสเทิร์น เดคอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ WDC ผู้นำเข้าวัสดุตกแต่งบ้านรายใหญ่ กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2563 ว่า จะเน้นเรื่องการการลงทุนและสร้างการเติบโตของผลกำไร ผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่ การเพิ่มทีมพิเศษเข้ามาดูแลเฉพาะเรื่องการบริหารการขาย บริหารสินค้า (สต๊อก) เนื่องจากโครงสร้างสินค้าของบริษัทเกือบ 100% นำเข้าจากผู้ผลิตสำคัญใน 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย อิตาลี จีน และสเปน ซึ่งเป็นวิธีการบริหารความเสี่ยงมากกว่าจะกระจุกแหล่งนำเข้าประเทศเดียว ซึ่งผลจากเหตุการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) มีส่วนทำให้แหล่งวัตถุดิบ (Supply Chain) อาจจะสะดุดไปบ้าง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการบริหารสต๊อกให้เหมาะสมต่อความต้องการ ทั้งจากดีมานด์ในกลุ่มโครงการต่างๆ และกลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างคลังสินค้าบนเนื้อที่ 20 ไร่ ทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม. รองรับการสั่งสินค้าได้ 200-300 ล้านบาท ซึ่งต้องเตรียมสินค้ารองรับความต้องการของลูกค้าในระยะ 6 เดือนจนไปถึง 1 ปี
การเพิ่มกลุ่มลูกค้า โดยจะขยายไปตลาดกลุ่มลูกค้าบ้านมากขึ้น และการเพิ่มโปรโมชันและออกคอลเลกชันใหม่ๆ เพื่อให้รับมาร์เกตเทรนด์ เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ หรือสินค้าเพื่อผู้สูงอายุ เป็นต้น
สำหรับแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นั้น บริษัทฯได้ดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การนำเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชน (IPO) โดยมีบริษัท APM เป็นที่ปรึกษทางการเงิน คาดว่าเงินที่ระดมทุนได้ประมาณ 100-200 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจและสาขาเพิ่มให้ครอบคลุม12 แห่งในอนาคต ล่าสุด ได้ทุ่มเงินลงทุน 15 ล้านบาท เปิดโชว์รูมแห่งที่ 6 ในพัทยา เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว และมีแผนเปิดสาขาที่ 7 เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าในโซนบางนา ตั้งอยู่ที่โครงการ For You Park
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสขยายธุรกิจในประเทศกลุ่มภูมิภาคเอเชีย โดยจะเปิดสาขาสำนักงาน (Branch Office) พร้อมทั้งจะร่วมกับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม เปิดสาขาที่ 8 และ 9 ภายในปี 2564 ในด้านของผลประกอบการปี 2563 วางเป้าหมายยอดขายกว่า 700 หรือโตเพิ่มขึ้น 8-10% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2562 ที่ทำได้ 670 ล้านบาท และปี 2561 มียอดขาย 614 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ (NP) ประมาณ 6-8% ปี 61 NP อยู่ที่ 5-6%.