คลังชวนคนไทยร่วมฝ่าวิกฤติไวรัส-กระตุ้นเศรษฐกิจ
“ชาญกฤช” เตือนสติคนไทย หันหน้าร่วมฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด ย้ำ! รัฐบาลดูแลพี่น้องประชาชนและภาคธุกิจอย่างเต็มกำลัง ลั่นรัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาสอดรับ 6 ข้อเสนอของฝ่ายค้านเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสแล้ว
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ว่า ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหนัก โดยนักเศรษฐศาสตร์ไทยประเมินว่า หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยืดเยื้อนาน 6 เดือน รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยปีนี้จะหายไปราว 2.78 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้เร่งออกชุดมาตรการลดผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 1 ครอบคลุมประชาชนและผู้ประกอบการ ยึดหลัก “ทันการณ์ ตรงเป้าหมาย และชั่วคราวตามจำเป็น” ทั้งด้านการเงินและด้านภาษี ได้แก่ 1.ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่ร่วมโครงการกับธนาคารออมสิน ปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี สูงสุดรายละไม่เกิน 20 ล้านบาท, 2. ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมและจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน, 3. ลดภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการ จากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 1.5 สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมิน ตั้งแต่ 1 เม.ย.- 30 ก.ย.63 และ 4. SMEs หักรายจ่ายได้ 3 เท่า สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าจ้างของเดือน เม.ย.- ก.ค.63 ให้แก่ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนและได้รับค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาทต่อคนต่อเดือน
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกที่ดี กรณียื่นแบบ ภ.พ.30 ทางอินเทอร์เน็ตจะได้รับคืนภายใน 15 วัน ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จากอัตราร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 0.1 ของค่าจ้าง รวม 3 เดือน
รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทยเพื่อเศรษฐกิจฐานรากถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการให้พี่น้องประชาชนได้สิทธิหักเพิ่มวงเงินการลดหย่อนภาษีกองทุน SSF มาตรการส่งเสริมพัฒนาเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก การอบรมช่วยเหลือผ่านแพลตฟอร์มให้ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดได้มีการเตรียมความพร้อม และเปิดกระดานเทรดที่ 3 สำหรับสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอี เป็นการเฉพาะ
“มาตรการต่างๆ ที่ออกมา สามารถทำได้จริงและมีผลทันที จึงขอให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการมั่นใจการดูแลด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาวิกฤตไวรัสโควิด-19 รวมถึงเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มีกำลังซื้อช่วยกันจับจ่ายใช้สอย เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศ” นายชาญกฤช ย้ำและว่า
ยังขอเชิญชวนภาคการเมือง ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ก้าวข้ามการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 ไปได้ด้วยดี สุดท้ายนี้ ตนขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่นำเสนอ 6 มาตรการให้รัฐบาลเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ซึ่งตนขอยืนยันว่าหลายข้อรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการอยู่ อาทิ การแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากาก การใช้มาตรการป้องกันที่เข้มข้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกฟรีวีซ่าประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ และอิตาลี รวมถึง ทอท.เปิดโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต กว่า 100 ห้อง รับนักท่องเที่ยวต่างชาติกักตัว 14 วัน และอื่นๆ
นอกจากนี้ นายอุตตม ยังได้สั่งการให้ธนาคารออมสินผลิตและแจกจ่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ ชนิดขวดขนาด 25 ml. จำนวน 1 ล้านชิ้น ให้แก่พี่น้องประชาชนผ่านสาขาของธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในเดือน มี.ค.จนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์.