“กนอ.” ดัน 3 มาตรการ สู้ ภัยแล้ง
“กนอ.”เผย ตัวเลขการลดใช้น้ำในพื้นที่นิคมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์เกินกว่าที่ตั้งไว้ สามารถลดการใช้น้ำได้ถึงร้อยละ 14 พร้อมดัน 3 มาตรการหลักฝ่าภัยแล้ง
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับวิกฤติภัยแล้ง ร่วมกับผู้ประกอบการในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมอับบลิวเอชเอ นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย และนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล พื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา พบว่าการใช้น้ำในนิคมฯพื้นที่จังหวัดระยองลดลงได้มากถึง 14 % (ประมาณ 7,394,175 ลูกบาศก์เมตร/เดือน)จากเป้าหมายที่ได้ขอให้ร่วมมือลด 10% (ประมาณ 7,711,200 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน)
ทั้งนี้ กนอ.ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในแต่นิคมอุตสาหกรรม จัดทำแผนการปรับลดการใช้น้ำโดยลดลงได้มากถึง 14 % ผ่านแผนงานต่างๆ ที่นำมาปรับใช้ อาทิ การใช้ระบบ 3 Rs (Reduce : ลดการใช้ Reuse : นำกลับมาใช้ซ้ำ Recycle : นำกลับมาใช้ใหม่) และขอความร่วมมือกับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงใหญ่สำหรับผู้ประกอบกิจการ (Shutdown/Turnaround) ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากลดใช้น้ำลงเพื่อรับมือกับภาวะภัยแล้ง กนอ.ยังสนับสนุน การหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม โดยการซื้อน้ำจากแหล่งน้ำอื่นๆ นำเข้ามาทางเรือ/ทางรถ และส่งต่อเข้าท่อส่งน้ำเดิมที่ กนอ.มีอยู่ โดยมีการแบ่งแยกประเภทของอุตสาหกรรมในการรับน้ำตามเขตพื้นที่แยกตามกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงมาตรการเสริมเร่งด่วนที่จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ในการดำเนินการนำน้ำจากคลองชากหมาก ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำฝนและน้ำทิ้งจากโรงงานในพื้นที่ มาผ่านการบำบัดโดยการรีไซเคิลด้วยระบบ RO (Reverse Osmosis : ระบบบำบัดน้ำเสีย สารตกค้าง และเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ) โดยผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมร่วมกันรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในส่วนของการดำเนินการ โดยเบื้องต้นจะสามารถผลิตน้ำได้ 14,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะจ่ายค่าน้ำเพิ่มในส่วนนี้เพียงหน่วยละ 2.76 บาทต่อลูกบาศก์เมตร แต่หากมีผู้ประกอบการรายใดที่ไม่เข้าร่วมกับโครงการฯ แต่มีความประสงค์จะใช้น้ำจากมาตรการนี้สามารถขอรับน้ำได้ในราคาต้นทุน อยู่ที่ 72 บาทต่อลูกบาศก์เมตรได้เช่นกัน ทั้งนี้ ในระยะแรกโครงการมีระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน โดยผู้ประกอบการโรงงานที่สนใจสามารถตอบรับเข้าร่วมโครงการได้ที่ emcc.ieat@gmail.com.