คปภ.แจงประกันจ่ายแล้วเหยื่อจ่าคลั่งกว่า 50 ล.
คปภ. แจงบริษัทประกันภัยฯ เดินหน้ารายงานจ่ายสินไหมฯให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงความเสียหายอื่นๆ จากเหตุ “จ่าทหารคลั่ง” กราดยิงที่โคราชรวมว่า 50 ล้านบาทแล้ว ลั่นพร้อมบูรณาการกับทุกภาคส่วนหวังนำระบบประกันภัยเข้าช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสีย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย บริษัทประกันภัย ลงพื้นที่และตรวจสอบการทำประกันภัยของผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งได้ติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อเยียวยาให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งครอบคลุมความคุ้มครองทั้งชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวม 51,378,134.90 บาท
โดยข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.พ.2563 พบว่า มี 21 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.ไทยประกันชีวิต บจ.เอไอเอ บมจ.เอฟดับบลิวดีประกันชีวิต บมจ.ฟิลลิปประกันชีวิต บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต บมจ.อาคเนย์ประกันชีวิต บมจ.สหประกันชีวิต บมจ.ชับบ์ไลฟ์ประกันชีวิต บมจ.พรูเด็นเชียลประกันชีวิต บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.เอ็มบีเคไลฟ์ ประกันชีวิต บมจ.กรุงไทย – แอกซ่าประกันชีวิต บมจ.เมืองไทยประกันภัยบมจ.ทิพยประกันภัย บจ.กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ บมจ.วิริยะประกันภัย บมจ.แอลเอ็มจีประกันภัย บมจ.บางกอกสหประกันภัย บมจ.อาคเนย์ประกันภัย บมจ.กรุงไทยพาณิชย์ประกันภัย และบมจ.ธนชาตประกันภัย ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียชีวิต 23 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 32,143,134.90 บาท
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 7 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยไว้ แต่หากพบข้อมูลด้านการประกันภัยที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม สำนักงาน คปภ.จะเร่งดำเนินการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยเร็วต่อไป
สำหรับรถยนต์และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว จากการตรวจสอบข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.พ.2563 พบว่า มีรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย และทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับ บมจ. ไทยประกันภัย โดยบริษัทจ่ายค่าสินไหมทดแทน 15,000 บาท และ บมจ.วิริยะประกันภัย โดยบริษัทจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้ว 220,000 บาท อีกส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์หลักฐาน ทั้งนี้ หากภายหลังจากกระบวนงานพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อยแล้ว บริษัทผู้รับประกันภัยจะได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยโดยเร่งด่วนต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทสยามดีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา) ได้ทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย โดยมีสัดส่วนของบริษัทประกันภัยที่ร่วมรับประกันภัย ดังนี้ บมจ.ทิพยประกันภัย 40% บมจ.ฟอลคอนประกันภัย 25% บมจ.อาคเนย์ประกันภัย 15% บมจ.แอกซ่าประกันภัย 10% บมจ.ไทยไพบูลย์ประกันภัย 10% โดยบริษัทผู้รับประกันภัยได้ดำเนินการประเมินความเสียหายและพร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทน (อยู่ระหว่างผู้เสียหายรวบรวมเอกสารประกอบการจ่าย) 10,000,000 บาท และการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (BI) 5,000,000 บาท และจัดทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกไว้กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย (อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย รวมถึง บริษัท ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยภายในห้างเทอมินอล 21 นครราชสีมา ได้จัดทำประกันภัยไว้กับ บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ สาขาประเทศไทย โดยบริษัทฯ จ่ายค่าสินไหมทดแทน สำหรับความเสียหายแล้ว จำนวน 4,000,000 บาท
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า ตนยังได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) ว่า มีบริษัทประกันภัยอีกหลายแห่งได้ลงพื้นที่ เพื่อร่วมบริจาคเงินเพิ่มเติมให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อาทิ บจ.เอไอเอ ร่วมบริจาคเงิน 2,000,000 บาท บมจ.เมืองไทยประกันภัย 200,000 บาท บมจ.วิริยะประกันภัย มอบเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,500,000 บาท บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์โบรคเกอร์ จำกัด มอบเงินให้กับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 520,000 บาท บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมบริจาค 1,000,000 บาท และมอบเงินช่วยเหลือพิเศษผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละ 50,000 บาท รวมถึงร่วมกับบริษัทดีแทค มอบเงินช่วยเหลือพิเศษให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่เป็นลูกค้าตามโครงการ dtac life care จำนวน 6 ราย เป็นเงิน 600,000 บาท เป็นต้น
“สำนักงาน คปภ. จะร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อนำระบบประกันภัยเข้าช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ครบถ้วน ถูกต้องตามสัญญาประกันภัย และขอขอบคุณภาคอุตสาหกรรมประกันภัยทั้งระบบที่ทุ่มเทสรรพกำลังในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาความสูญเสียให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ อันนำมาซึ่งความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัยจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.