คลังเร่งฟื้นเชื่อมั่นดันเศรษฐกิจไทยคึก
“อุตตม” จี้หน่วยงานรัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนเสริมรัฐวิหสากิจ เชื่อ พ.ค.นี้ จะเห็นเม็ดเงินมากกว่า 1 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เตรียมผุดมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ-เยียวยาอุตฯท่องเที่ยวทุกกลุ่ม จ่อมัดรวมชุดมาตรการก้อนใหญ่ เสนอ ครม. ภายใน ก.พ.นี้ เผยอาจได้เห็นการใส่เม็ดเงินผ่านบัตรสวัสดิการฯ ถึงมือคนจนรวดเดียวเลย
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงการเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจไทยจากนี้ไป ว่า นอกจากเรื่องงบประมาณปี 2563 ที่จะต้องเร่งรัดทั้งการเบิกจ่ายและการลงทุน ซึ่งเบื้องต้นมีบางหน่วยงานได้เริ่มเบิกจ่ายไปบ้างแล้ว ขณะที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเอง ก็พร้อมจะดำเนินการรองรับการเบิกจ่ายงบประมาณให้ตอบโจทย์การลงทุนของหน่วยงานต่างๆ โดยคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายและใช้ได้จริงในช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ และภายในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ น่าจะมีการเร่งรัดเบิกจ่ายและลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยไม่นับรวมกับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ได้ดำเนินการลงทุนในวงเงิน 1 แสนล้านบาทไปก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีแผนจะออกมาตรการระยะสั้น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการ พนักงานและลูกจ้าง รวมถึงภาคประชาชน ควบคู่ไปกับการผลักดันมาตรการอื่นๆ ที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เช่น มาตรการชิมช้อปใช้ เฟสที่ 4 ทั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในเดือน ก.พ.นี้ ส่วนจะไปพร้อมกันทั้งแพจเกจหรือไม่นั้น คงต้องดูความเหมาะสมอีกที เนื่องจากบางมาตรการ เช่น การท่องเที่ยว ไม่ได้มีเฉพาะแค่กระทรวงการคลังเท่านั้น ยังมีมาตรการในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีก โดยหากมาตรการของกระทรวงการคลังแล้วเสร็จก่อน ตนก็จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน
“สถานการณ์ความรุนแรงที่มีพร้อมกัน จำเป็นที่กระทรวงการคลังอาจต้องพิจารณาถึงขนาดของมาตรการที่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่และครอบคลุมประชาชนในทุกลุ่ม แต่จะเสนอพร้อมกันเป็นแพกเกจไปในคราวเดียวกันหรือไม่ ต้องรอดูที่ความเหมาะสมอีกที” รมว.คลังย้ำและว่า
หากจำเป็น รัฐบาลอาจพิจารณาใส่เงินในโครงการ/มาตรการใหม่ๆ เหล่านี้ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ผู้ถือบัตรฯสามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในทันที อย่างไรก็ตาม คงต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้เสียก่อน เนื่องจากขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรูปแบบใหม่ ที่จะต้องรอความชัดเจนเสียก่อน.