คปภ.จี้เยียวยา 5 เหยื่อตายที่บุรีรัมย์
เลขาธิการคปภ. จี้ทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือด้านประกัน หลังเกิดเหตุรถ 3 คันชนยับที่บุรีรัมย์ จนมีเหยื่อเสียชีวิต 5 ราย เผยเฉพาะค่ายวิริยะฯ นัดหมายจ่ายค่าสินไหมแล้ว 20 ม.ค.นี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าเป็นตัวกลางประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบริษัทประกันภัย เยียวยาจ่ายค่าสินไหมในเหตุการณ์ รถกระบะ เลขทะเบียน บร – 3482 บุรีรัมย์ เฉี่ยวชนกับรถยนต์ เลขทะเบียน ผจ – 1175 ขอนแก่น และรถยนต์กระบะ เลขทะเบียน กธ – 5738 บุรีรัมย์ เป็นเหตุให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย เกิดเหตุบน ถ.บุรีรัมย์ – สตึก หน้าโรงสีสหสินข้าวไทย ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ม.ค.2563
ทั้งนี้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งประสานงานตรวจสอบการทำประกันภัย และลงพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับทายาทผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่
เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รถยนต์ เลขทะเบียน บร – 3482 บุรีรัมย์ มี นายธีระพงษ์ สุจริตธรรม เป็นผู้ขับขี่และเป็นเจ้าของรถซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยภาคสมัครใจ(ประเภท 1) กับ บบจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 26 ก.พ. 2563 โดยในเบื้องต้นจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรวม 235,000 บาท จากพ.ร.บ. 35,000 บาท และสัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (PA) จากกรมธรรม์ประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) อีก 200,000 บาท

ส่วนรถยนต์ เลขทะเบียน บจ – 1175 ขอนแก่น ซึ่งมี นายวีระวุธ อินทจักร์ เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.ภารดา โพธิมาศ ด.ช.ภราวุธ โพธิ์มาศ และ ด.ช.วีวราวุฒิ โพธิมาศ เป็นผู้โดยสาร ได้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย โดยรถดังกล่าวได้ทำพ.ร.บ. กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดวันที่ 16 ม.ค.64 เบื้องต้นทายาทผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสาร จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 300,000 บาท ส่วนทายาทผู้ขับรถที่เสียชีวิตในเบื้องต้นจะได้รับค่าสินไหมทดแทน 35,000 บาท จาก พ.ร.บ.
ขณะที่รถยนต์หมายเลขทะเบียน กธ – 5738 บุรีรัมย์ ซึ่งมี นายมูล พูนกลาง เป็นผู้ขับขี่ ได้ทำ พ.ร.บ. และประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับ บมจ.เมืองไทยประกันภัย สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ค.2563 แม้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่รถยนต์ได้รับความเสียหาย จึงจะได้รับคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์จากการประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1)
สำหรับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยรถยนต์นอกเหนือจากนี้ ต้องรอผลคดีจากพนักงานสอบสวนก่อนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท และ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย
นายสุทธิพลย้ำว่า สำนักงาน คปภ. จับุรีรัมย์ ได้ประสานเพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ ตลอดจนอำนวย ความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวแล้ว และได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเพื่อดำเนินการตามกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทผู้เสียชีวิต โดยทายาทผู้ประสบภัยรายที่เอกสารพร้อม บมจ.วิริยะประกันภัย นัดหมายจ่ายค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวในวันที่ 20 ม.ค.2563
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมในระหว่างการใช้รถใช้ถนน และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ” เลขาธิการ คปภ.ย้ำ และว่า
ควรตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186.